AIT มั่นใจรายได้สดใสปีหน้า หลังเลือกตั้ง-การเร่งเบิกจ่ายงบรัฐฯ

ข่าวทั่วไป Monday November 26, 2007 14:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
AIT มั่นใจไตรมาส 4 ปีนี้ ส่งผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ งานประมูลเพียบ หลังความชัดเจนการเลือกตั้ง 23 ธ.ค.นี้ คาดว่าปีหน้ารายได้กลับสู่ปกติ มี backlog หนุนกว่าพันล้านบวกแผนขยายสู่ธุรกิจบริการและตลาดใหม่ ตั้งเป้ารายได้ปีหน้า 2.5 พันล้าน
นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้ให้บริการด้านธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบการสื่อสาร เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการปี 50 ว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่บรรยากาศในการทำธุรกิจไม่อำนวย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง ความไม่สงบใน 3 จังหวัดภาคใต้ และปัจจัยในต่างประเทศ งบประมาณใช้จ่ายประจำปี 50ของภาครัฐที่เป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศล่าช้าไป 3 เดือนหรือหนึ่งไตรมาส การใช้งบประมาณอย่างเต็มที่ของภาครัฐล่าช้ากว่าปกติ 6 เดือน ต่างๆเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของภาคธุรกิจโดยทั่วไป รวมถึง AIT ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะไม่เป็นปกติดังกล่าว อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าผลประกอบการทั้งปีคาดว่าไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ แต่ก็พอใจในผลประกอบการโดยรวม ทั้งนี้คาดว่ารายได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีจะมีแนวโน้มที่ดีและส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวมกลับสู่ฐานรายได้ที่พร้อมจะเติบโตในปี 51 ต่อไป
“ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เป็นช่วงเริ่มต้นงบประมาณปี 51ของภาครัฐซึ่งกลับสู่สภาวะปกติที่ไม่ล่าช้าเช่นปี 50 เราคาดว่าจะได้งานมากพอที่จะส่งผลให้รายได้ในไตรมาสสี่โดดเด่นอีกครั้งหนึ่งและช่วยให้ผลประกอบการรวมทั้งปีเป็นที่น่าพอใจภายใต้สภาวะเช่นนี้ และเราเชื่อว่างานที่คาดว่าจะได้มาใหม่ในช่วงนี้รวมถึงที่มีอยู่ในมือจะส่งผลให้ Backlog ในปีหน้าไม่น้อยกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้เรากลับมายังจุดเติบโตเดิมของเรา โดยตั้งเป้าปีหน้ารายได้ 2,500 ล้านบาท”
สำหรับปี 2551 หลังจากที่มีการเลือกตั้งและได้รัฐบาลใหม่แล้วนั้น คาดว่ารัฐบาลใหม่จะเร่งแต่งตั้งรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างๆและเข้าบริหารงานโดยเร็วที่สุด เพื่อให้งานดำเดินไปอย่างต่อเนื่องและกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยและชะลอตัวอย่างปัจจุบัน สำหรับงานประมูลโครงการภาครัฐในปี 51 คาดว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ซบเซาในครึ่งแรกของปี 50 เนื่องจากงบประมาณภาครัฐและฝ่ายบริหารกลับสู่สภาวะปกติ อย่างไรก็ตามตลาดทางภาคเอกชนยังคงต้องรอดูผลงานการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น ตลอดจนความต่อเนื่องของรัฐบาล
นายศิริพงษ์ ยังได้กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปีหน้าด้วยว่า บริษัทฯยังคงยึดตามแผนขยายธุรกิจที่กำหนดไว้ในปี 50 เป็นหลัก แต่อาจชะลอการดำเนินงานบางแผนงาน เพื่อความพร้อมของตลาดและเทคโนโลยี สำหรับแผนสร้างฐานธุรกิจของบริษัทให้มั่นคงและกว้างขวางมากยิ่งขึ้นนั้น บริษัทฯยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องคาดว่าจะให้เห็นเป็นรูปธรรมในช่วงไตรมาสแรกของปี 51
“ในปีหน้านั้น เราจะสร้างธุรกิจด้านบริการให้มีศักยภาพในการให้บริการไม่ใช่เฉพาะลูกค้าเราเอง แต่สามารถให้บริการลูกค้าอื่นๆได้ เราเชื่อว่าธุรกิจบริการคืออนาคตของเรา นอกเหนือจากธุรกิจบริการแล้ว เรายังต้องขยายตลาดไปยังฐานลูกค้าอื่นๆที่มีความต้องการงานมากในด้านระบบสารสนเทศและการสื่อสาร“ นายศิริพงษ์กล่าว
สำหรับราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงวัตถุดิบในการติดตั้งระบบนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันแต่อย่างได เนื่องจากทุกรายก็มีต้นทุนเพิ่มเช่นกัน แต่เราน่าจะมีศักยภาพในการแข่งขันมากกว่าหากเราใช้ความได้เปรียบที่เป็นบริษัทมหาชน อย่างไรก็ตามถึงแม้ต้นทุนการขายจะสูงขึ้นบ้างแต่ก็เป็นต้นทุนของโครงการ และไม่เชื่อว่าจะทำให้ Gross margin เปลี่ยนไปจากเดิมคือ 25%
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ :กฤติยาพร พลตรี (บุ๋ม)
บริษัทมาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
โทรฯ 02-643-1191-2 มือถือ 08-9636-8414
E-Mail : kritiya_kpp@yahoo.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ