กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--ONE Championship
ในโลกของการศิลปะการป้องกันตัว นักกีฬาทุกคนล้วนใฝ่ฝันถึงการเป็นแชมป์โลก เพราะนั่นแสดงให้ทุกคนเห็นว่าพวกเขาสามารถยกสถานะตนเองขึ้นมาประสบความสำเร็จในวงการนี้ได้ ซึ่งนักกีฬาแต่ละคนกว่าจะเดินทางไปถึงจุดนั้น พวกเขาต้องเสียเลือดเสียเนื้อ หยาดเหงื่อ และน้ำตานับไม่ถ้วนเป็นการแลกเปลี่ยน ก่อนจะได้รับการประกาศชื่อจากผู้ตัดสินให้เป็นผู้ชนะและผู้ครองเข็มขัดแชมป์โลก
อเล็กซ์ "ลิตเติ้ลร็อค" ซิลวา ก็คือหนึ่งในนักกีฬาของวงการมาร์เชียลอาร์ต ที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นแชมป์โลก และเป้าหมายที่วางไว้นั้นก็ทำให้นักกีฬาจากบราซิล มุ่งสมาธิและทุ่มเทอย่างหนักกับการฝึกซ้อมในโรงยิม เพื่อเดินทางไปสู่เส้นทางที่เขาวาดฝันเอาไว้
"เป้าหมายของผมคือการเป็นแชมป์โลก เพราะผมรู้ว่าตัวเองทำได้และกำลังมีอนาคตที่ดี นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก ก็เพื่อไปให้ถึงจุดหมายนั่นไง" ซิลวา กล่าวด้วยสายตามุ่งมั่น
อเล็กซ์ ซิลวา เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างว่าคือหนึ่งในนักกีฬาของ ONE Championship รุ่นสตรอว์เวทที่ดีที่สุดของวงการ เขากำชัยชนะมาแล้ว 5 ไฟต์ติดต่อกัน ด้วยพื้นฐานการต่อสู้สไตล์ บราซิเลียน ยิวยิตสู ที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ และชำนาญเรื่องการต่อสู้บนพื้น อีกหนึ่งอาวุธสำคัญที่ทำให้เขาพิชิตคู่ต่อสู้ด้วยท่าซับมิชชั่นจนอีกฝั่งตบพื้นยอมแพ้มาแล้วทั้งสิ้น
หลังประกาศศักดาคว้าชัยชนะทั้ง 2 ไฟต์ในปี 2017 ซิลวา ต้องการชัยชนะอีกครั้งเดียวเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวทคนใหม่ของสังเวียน ONE Championship ซึ่งเจ้าของคนปัจจุบันที่ถือครองอยู่ก็คือ โยชิทากะ "โนบิตะ" ไนโตะ นักกีฬาจอมแกร่งชาวญี่ปุ่น และการชิงเข็มขัดครั้งนี้ก็จะเกิดขึ้นในรายการ ONE: WARRIORS OF THE WORLD ที่อิมแพ็ค อารีน่า กรุงเทพฯ ประเทศไทย วันที่ 9 ธันวาคม
ซิลวา วัย 35 ปี ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการพิชิตคู่ต่อสู้ด้วยท่าซับมิชชั่น มาจากเมืองเซา เปาโล ประเทศบราซิล เขาเริ่มต้นการแข่งขันในปี 2017 ด้วยความน่าประทับใจยิ่งด้วยการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ถึง 2 รายในเวทีลูกกรงของ ONE Championship ทั้ง รอย โดลิเกวซ อดีตนักชกมวยสากลอาชีพที่โดนท่าอาร์มบาร์จนต้องยอมแพ้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่ ฮายาโตะ ซูซูกิ อีกหนึ่งคู่ต่อกรจากญี่ปุ่น ก็ต้องพบจุดจบด้วยท่าเดียวกันสำหรับไฟต์ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน
ซูซูกิ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยแพ้ใคร แต่สุดท้ายสถิติก็ถูกทำลายด้วยน้ำมือของ ซิลวา และ ไนโตะ ก็คือเหยื่อรายต่อไปที่ ซิลวา ตั้งใจว่าจะมอบจุดจบบนเวทีลูกกรงให้แก่เขา และเอาเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวท มาเป็นของตัวเองให้ได้ ซึ่งเมื่อไฟต์นี้ได้รับการยืนยันจากผู้จัด เขาก็จัดการตัวเองด้วยการจัดตารางฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น ผนึกกำลังกับทีมงานในเทรน
นิ่งแคมป์ของ EVOLVE MMA เพื่อไปสู่ชัยชนะ
"ผมซ้อมหนักเพื่อโอกาสนี้ และตื่นเต้นทีเดียว" ซิลวา กล่าวต่อ "ผมแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะให้มันเกิดขึ้น แต่ก็เหมือนกับทุกคืนที่ผ่านพ้นไป นั่นคือจงเดินขึ้นเวทีแล้วเผชิญหน้ากับเขา ส่วนเรื่องของการเตรียมตัวผมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก ใช้วิธีการซ้อมเหมือนครั้งที่พบกับ ซูซูกิ นั่นคือซ้อมเกมบุก, การเข้าทำ และท่ามวยปล้ำ ซ้ำไปซ้ำมาทุกวัน นี่แหละวิธีการซ้อมของเรา"
สำหรับไฟต์ชิงเข็มขัด ซิลวา จะได้รับโอกาสแข่งขันกับ ไนโตะ ผู้ไร้พ่ายจากเมืองชิบะ จำนวน 5 ยก ดีกรีของชายหนุ่มเลือดซามูไรผู้นี้ไม่ธรรมดา ครึ่งหนึ่งของชัยชนะที่เขาได้มาเกิดขึ้นจากการทำให้คู่ต่อสู้ตบพื้นยอมแพ้เช่นดียวกัน แต่กระนั้น ซิลวา แม้จะให้ความเคารพต่อฝีมือของ ไนโตะ แต่เขาก็มีความมั่นใจเป็นของตัวเองว่าการแข่งขันครั้งนี้จะสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่างให้เจ้าของเข็มขัดคนปัจจุบันได้ลิ้มรสความพ่ายแพ้
"เขาคือแชมป์โลกผู้ไร้พ่าย และมีสไตล์แบบเดียวกับผม แต่หลังจากได้ศึกษาก็พบว่าเกมบุกคือจุดอ่อนของเขา เรามีจุดแข็งแบบเดียวกันแต่แน่นอนว่าทุกคนยังไม่เคยเห็นเกม
บุกของผม บางทีนั่นอาจจะเป็นจุดที่ทำให้ผมได้เปรียบสำหรับไฟต์นี้ก็ได้" ซิลวา พูดอย่างมั่นใจ
สุดท้าย นักสู้ชาวบราซิเลียน กล่าวทิ้งท้ายว่า "เหมือนกับที่ผมพูดเสมอว่าทุกสิ่งที่ทำไปคืองานของผม ผมซ้อมทุกวันและเชื่อมั่นในตัวเอง พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ผมก็มีความมั่นใจว่าตนเองจะสามารถล้มเขาได้ในไฟต์นี้ อีกอย่าง การได้แชมป์นั้นทำให้คนรอบข้างของผมมีความสุข ไม่ว่าเป็นครอบครัว เพื่อนๆ หรือทีมงาน สิ่งนี้จะทำให้ทุกคนมีความสุขแน่นอน รวมถึงตัวผมเองด้วย"
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของ วัน แชมเปี้ยนชิพ เข้าชมได้ที่ www.onefc.com ติดตามเราได้ที่ทวิตเตอร์และอินสตาแกรม @ONEChampionship และเฟซบุ๊กhttps://www.facebook.com/ONEChampionship