กรุงเทพฯ--6 ธ.ค.--ปตท.
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 0.28 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 63.38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 0.27 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 57.83 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เพิ่มขึ้น 0.05 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 61.05 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ด้านราคาเฉลี่ยน้ำมันสำเร็จรูป ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เพิ่มขึ้น 0.33 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 75.98 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซล ลดลง 0.48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 74.00 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
· ในวันที่ 30 พ.ย. 60 การประชุมระหว่างกลุ่มผู้ผลิต OPEC และ Non-OPEC มีมติขยายระยะเวลามาตรการควบคุมปริมาณการผลิตจนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2561 จากเดิมที่จะสิ้นสุดเดือน มี.ค. 61 โดยคงปริมาณควบคุมดังเดิม (กลุ่ม OPEC ลด 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ Non-OPEC ลด 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน) เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ อีกทั้งได้ตั้งเพดานการผลิต สำหรับลิเบีย และไนจีเรียไม่ให้สูงกว่าระดับเฉลี่ยปี พ.ศ.2560 (รวม 2 ประเทศอยู่ที่ 2.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ซึ่งก่อนหน้าทั้ง 2 ประเทศได้รับการยกเว้น เนื่องจากประสบปัญหาความไม่สงบภายในประเทศ
· OPEC รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ ในเดือน ต.ค. 60 ลดลง 150,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 32.59 ล้านบาร์เรลต่อวัน และอัตราความร่วมมือลดปริมาณการผลิต (Compliance Rate) อยู่ที่ 100%
· ท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone (590,000 บาร์เรลต่อวัน) ที่ขนส่งน้ำมันดิบจากแคนาดามาสหรัฐฯ ปิดดำเนินการหลังพบการรั่วไหลเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 60 และคาดว่าอาจใช้เวลาซ่อมแซมอย่างน้อย 4 สัปดาห์ อย่างไรก็ดีวันที่ 28 พ.ย. 60 Pipeline and Hazardous Materials Safety Administration ของสหรัฐฯ อนุมัติให้ บริษัทTransCanada กลับมาเดินเครื่องท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone และในวันที่ 29 พ.ย. 60 สูบถ่ายน้ำมันดิบที่ระดับ 20% หรือประมาณ 118,000 บาร์เรลต่อวัน
· Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ย. 60 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 3.4 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 453.7 ล้านบาร์เรล
· อุปสงค์น้ำมันดิบของจีนแข็งแกร่ง ในช่วง 10 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2560 จีนนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 11.8% มาอยู่ที่ 8.40 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
· กระทรวงพาณิชย์จีนอนุมัติโควตานำเข้าน้ำมันดิบแก่โรงกลั่นอิสระ 3 แห่ง ปริมาณรวม 10.94 ล้านบาร์เรล ประกอบด้วยบริษัท Shandong Qingyishan Petrochemical Technology Co ปริมาณ 5.84 ล้านบาร์เรล, บริษัท Zibo Xintai Petrochemical Co: 3.64 ล้านบาร์เรล, และบริษัท Shandong Yuhuang Shengshi Chemical Co: 1.46 ล้านบาร์เรล โดยโควตาจะสามารถใช้ได้ถึงสิ้นปีนี้เท่านั้น
· 29 พ.ย. 60 เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล (Intercontinental Ballistic Missile: ICBM) โดยทะยานสู่ท้องฟ้าด้วยความสูงถึง 4,500 กม. และเดินทางเป็นระยะทาง 960 กม. ตกลงสู่ทะเลใกล้กับเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่าขีปนาวุธดังกล่าว ขึ้นไปได้สูงกว่าในการทดสอบครั้งก่อนแสดงว่าขีปนาวุธเกาหลีเหนือสามารถเดินทางมาถึงกรุง Washington D.C.
· Commodity Futures Trading Commission (CFTC) รายงานสถานะการลงทุนในสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า NYMEX ที่นิวยอร์กและ ICEที่ลอนดอน กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับสถานะถือครองสุทธิ (Net Long Position) สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ย. 60 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 51,853 สัญญา อยู่ที่ 451,877สัญญา
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
· Baker Hughes Inc. รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ (Rig) ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 ธ.ค. 60 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 2 แท่น มาอยู่ที่ 749 แท่น เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2
· EIA รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 24 พ.ย. 60 เพิ่มขึ้น 240,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 9.68 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
· นาย Mohammed Hassan หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Rumaila ในอิรักเผยในปี พ.ศ. 2561 จะเพิ่มปริมาณผลิตขึ้น 50,000 บาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันที่ 1.45 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน แหล่งดังกล่าวดำเนินการโดยบริษัท BP ของอังกฤษ และบริษัท CNPC ของจีน
แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดช่วงสุดสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการประกาศขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC และ Non-OPECจากเดิมจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 61 จนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2561 ปริมาณรวม 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามผู้ผลิตน้ำมันของรัสเซียแสดงความกังวลเกี่ยวกับปริมาณการผลิต Shale Oil ของสหรัฐฯ รวมถึงปริมาณการผลิตของผู้ผลิต Non-OPEC รายอื่นซึ่งไม่อยู่ในกลุ่มความร่วมมือ ที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ ส่งผลให้นักลงทุนออกจากตลาดหุ้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ นาย Michael Flynnอดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ รับสารภาพว่าให้การเท็จกับ FBI เกี่ยวกับการติดต่อกับทูตรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลต่อการสอบสวนว่านาย Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนรัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2559 ให้จับตาการประชุมเพื่อหาบทสรุปมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ระหว่างวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ ซึ่งนาง Lisa Murkowski วุฒิสมาชิกมลรัฐ Alaska พรรคริพับลิกันได้สอดแทรกการอนุมัติให้สามารถขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซในบริเวณพื้นที่ป่าสงวน Arctic Wildlife Refuge (ANWR) ทั้งนี้จากการสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2541 พบว่าปริมาณน้ำมันสำรองใต้พิภพบริเวณพื้นที่ป่าสงวน ANWR มีประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาร์เรล ทางด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 61.5-65.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ NYMEX WTI อยู่ในกรอบ 56.5-60.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ Dubai จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 59.5-63.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (National Bureau of Statistic - NBS) รายงานปริมาณอุปสงค์น้ำมันเบนซิน (Apparent Demand) ในเดือน ต.ค. 60 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.3% มาอยู่ที่ 3.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ Vietnam National Petroleum Import-Export Corp. (Petrolimex) ของเวียดนามออกประมูลซื้อน้ำมันเบนซิน 95 RON ปริมาณ 260,000 บาร์เรล ส่งมอบ 8-12 ธ.ค. 60 และ บริษัท Bangladesh Petroleum Co. (BPC) ของบังคลาเทศออกประมูลซื้อน้ำมันเบนซิน 95 RON ปริมาณ 255,000 บาร์เรล ส่งมอบ ม.ค.-มิ.ย. 61 ด้านปริมาณสำรองน้ำมัน International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 พ.ย. 60 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 180,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 11.18 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม Platts รายงานอุปทานน้ำมันเบนซินในตลาดเอเชีย เดือน ธ.ค. 60 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากโรงกลั่นไต้หวันมีแผนส่งออกน้ำมันต่อเนื่อง ประกอบกับ Bloomberg รายงาน Arbitrage น้ำมันเบนซิน จากยุโรปสู่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 พ.ย. 60 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 47,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ระดับ 177,000 บาร์เรลต่อวัน และ โรงกลั่นน้ำมัน Aichi (กำลังการกลั่น 160,000 บาร์เรลต่อวัน) ของบริษัท Idemitsu ในญี่ปุ่น กลับมาเดินเครื่อง CDU หลังปิด ซ่อมบำรุง ในวันที่ 3 ต.ค. – 24 พ.ย. 60 และ โรงกลั่น Port Arthur (กำลังการกลั่น 225,000 บาร์เรลต่อวัน) ของบริษัท Total SA ในรัฐเท็กซัส กลับมาเดินเครื่องหน่วย Fluid Catalytic Cracking Unit (FCCU : กำลังการผลิต 76,000 บาร์เรลต่อวัน ) หลังปิดซ่อมบำรุง ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.60 ทางด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 73.5-77.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงจาก บริษัท Essar Oil ของอินเดียออกประมูลขายน้ำมันดีเซล 0.05% S ปริมาณ 300,000 บาร์เรล ส่งมอบ 28-31 ธ.ค. 60 อีกทั้ง บริษัทน้ำมันแห่งชาติของสหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์ (ADNOC) เสนอขาย น้ำมันดีเซล 0.001% S แบบเทอมส่งมอบปี พ.ศ. 2561 อย่างไรก็ดี Reuters รายงานArbitrage น้ำมันดีเซล จากตะวันออกกลางไปชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ เปิด ทั้งนี้เรือ Seaways Shenandoah ขนส่งน้ำมันดีเซล ปริมาณ 834,000 บาร์เรล จากท่าYanbu ในซาอุดีอาระเบียกำลังมุ่งหน้าไปท่าเรือ New York เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน ก.พ. 58 เนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลในชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี และอุปสงค์จากฤดูหนาวทำให้กำไรของผู้ค้าจากตะวันออกกลางได้รับมากกว่าส่งไปยุโรป และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน รายงานApparent Demand ของน้ำมันดีเซลในเดือน ต.ค. 60 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.5% อยู่ที่ 3.82 ล้านบาร์เรลต่อวัน ด้านปริมาณสำรองน้ำมัน IES รายงานปริมาณสำรองMiddle Distillates เชิงพาณิชย์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 พ.ย. 60 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 700,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 11.09 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ทางด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 72.0-75.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล