กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--เวเบอร์ แชนวิค
บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัวแอปพลิเคชัน SnapBridge เวอร์ชัน 2.0 เพื่อมอบความสะดวกให้ผู้ใช้และเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานให้ง่ายและตอบโจทย์ผู้ใช้มากยิ่งขึ้น ในด้านการจัดการภาพถ่ายผ่านสัญญาณบลูทูธ (Bluetooth(R)) ที่เชื่อมต่อกับการทำงานของกล้องดิจิตอลนิคอนและสมาร์ทดีไวซ์1
SnapBridge เวอร์ชัน 2.0 นี้ ได้รับการปรับปรุงตามคำแนะนำของผู้ใช้งานจริงในเวอร์ชันก่อนหน้า โดยได้พัฒนาการออกแบบหน้าจอและเมนูใหม่ให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังมีการเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ มากมาย พร้อมคำแนะนำการใช้งาน ตั้งแต่ขั้นตอนการเชื่อมต่อกล้อง เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้นและเชื่อมต่อได้อย่างคล่องตัวกว่าที่เคย
แอปพลิเคชัน SnapBridge เวอร์ชันใหม่จะบอกวิธีการจับคู่อุปกรณ์กล้องและสมาร์ทดีไวซ์อย่างละเอียดในทุกขั้นตอน เพื่อขั้นตอนการจับคู่อุปกรณ์ที่ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับการพัฒนาให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้นในหลายประการ อาทิ การเพิ่มโหมดประหยัดพลังงาน การแสดงผลภาพที่รวดเร็วขึ้น และการเชื่อมต่อที่มีความเสถียรมากขึ้น เพื่อให้การโอนถ่ายไฟล์ภาพมีความลื่นไหลและทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ฟังก์ชันต่างๆ ยังได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อรองรับการถ่ายภาพระยะไกลได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยผู้ใช้กล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์ (DSLR) สามารถปรับแต่งและตรวจสอบการตั้งค่าต่างๆ ได้ทันทีในแบบเรียลไทม์ผ่านแอพพลิเคชัน โดยการพัฒนาฟีเจอร์ในแอพพลิเคชั่นทั้งหมดนี้ก็เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ตอบโจทย์แก่ผู้ใช้ทุกคน
นิคอนจะยังคงพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพในการใช้งาน พร้อมเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ ให้กับแอปพลิเคชันนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์แห่งการถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบกว่าที่เคยให้แก่ผู้ใช้งานต่อไปในภายภาคหน้า
1 สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตบนระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Android
ฟีเจอร์หลักใน SnapBridge เวอร์ชันใหม่
1. การออกแบบหน้าจอและโครงสร้างเมนูใหม่เพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น
ดีไซน์ของกราฟฟิคบนหน้าจอและโครงสร้างเมนูได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดในหลายๆ จุด อาทิ กราฟฟิคแสดงผลความคืบหน้าการประมวลผลแบบเส้นวงกลม ช่วยให้ผู้ใช้งานทราบสถานะการทำงานได้อย่างสะดวก เช่น สถานะการจับคู่อุปกรณ์ระหว่างกล้องและสมาร์ทดีไวซ์ หรือสถานะการถ่ายโอนข้อมูลภาพไปยังสมาร์ทดีไวซ์ นอกจากนี้ยังมีการเข้าถึงฟังก์ชันความช่วยเหลือโดยตรงจากเมนูในแอปพลิเคชันด้วย
2. คำอธิบายตลอดขั้นตอนการจับคู่อุปกรณ์ เพื่อให้การจับคู่ในครั้งแรกเป็นเรื่องง่าย
แอปพลิเคชันนี้จะระบุวิธีใช้งานที่แตกต่างกันออกไปสำหรับกล้องแต่ละประเภท ด้วยการอธิบายผ่านภาพประกอบและคำบรรยายเป็นขั้นตอนว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง สำหรับกล้องและสมาร์ทดีไวซ์ ซึ่งผู้ใช้สามารถปฏิบัติตามได้ง่ายดาย แม้ในผู้ใช้งานที่เพิ่งเคยจับคู่อุปกรณ์เป็นครั้งแรก และยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้สามารถลงทะเบียนกล้องในแอปพลิเคชันได้สูงสุดถึงห้าตัว และสามารถสลับเปลี่ยนคู่อุปกรณ์ในการใช้งานได้อย่างง่ายดายสำหรับผู้ที่มีกล้องนิคอนหลายรุ่น
3. ใช้พลังงานน้อยลง ทำงานเร็วขึ้น และเชื่อมต่อได้อย่างต่อเนื่องกว่าที่เคย
การเชื่อมต่อระหว่างกล้องและสมาร์ทดีไวซ์มีความเสถียรมากขึ้นตลอดทุกขั้นตอนการใช้งาน เริ่มตั้งแต่การดาวน์โหลดรูปภาพอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังเพิ่มความเร็วการแสดงผลภาพให้สามารถตรวจดูภาพดาวน์โหลดมาโดยอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงความเร็วการแสดงภาพเพื่อดาวน์โหลดแบบแมนนวล แอปพลิเคชันนี้ยังมาพร้อมโหมดประหยัดพลังงานใหม่ ที่จะช่วยควบคุมและลดปริมาณการใช้พลังงานบนสมาร์ทดีไวซ์สำหรับการใช้แอปพลิเคชันนี้ในกรณีที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับกล้องเป็นระยะเวลาหนึ่ง SnapBridge เวอร์ชัน 2.0 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าความแม่นยำในการระบุสถานที่ได้ตามต้องการ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะประหยัดการใช้พลังงาน หรือจะเน้นที่ความถูกต้องของข้อมูลสถานที่ในแบบเรียลไทม์ โดยการเลือกว่าจะให้สมาร์ทดีไวซ์อัพเดทพิกัดสถานที่บ่อยเพียงใดโดยเลือกได้ 3 ระดับ คือ High (เน้นความแม่นยำพิกัด) Medium หรือ Low (เน้นประหยัดพลังงาน)
4. ใช้งานได้คล่องตัวยิ่งขึ้นด้วยโหมดควบคุมการถ่ายภาพระยะไกล
แอปพลิเคชัน Snapbridge เวอร์ชันใหม่นี้สามารถตั้งค่าต่างๆ ที่สำคัญบนกล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์ (DSLR) เพื่อควบคุมการถ่ายภาพระยะไกล2 ให้สามารถแสดงผลได้แบบเรียลไทม์ผ่านโหมดไลฟ์วิวบนหน้าจอของสมาร์ทโฟน ผู้ใช้จึงสามารถชมภาพตัวอย่างและยืนยันการตั้งค่าแสงได้ก่อนการถ่ายภาพ และยังเพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพระยะไกลได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น
ค่าที่สามารถเลือก/ปรับได้: โหมดค่าแสง (P/S/A/M) ความไวชัตเตอร์ ขนาดรูรับแสง การชดเชยค่าแสง ความไวแสง (ISO) และไวท์ บาลานซ์
2 โหมดควบคุมการถ่ายภาพระยะไกลผ่าน SnapBridge จะใช้ไม่ได้หากกล้องไม่มี Wi-Fi(R) และจะเลือก/ปรับการตั้งค่าการถ่ายภาพระยะไกลผ่าน SnapBridge ได้เฉพาะในกล้องที่เป็นดิจิทัลเอสแอลอาร์ (DSLR) เท่านั้น
5. เข้าถึงบริการคลาวด์ของนิคอน NIKON IMAGE SPACE
SnapBridge เวอร์ชัน 2.0 มีแถบ NIKON IMAGE SPACE เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและใช้บริการคลาวด์นี้ได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าที่เคย และในเวอร์ชันนี้ ภาพที่บันทึกผ่านโหมดถ่ายภาพระยะไกลก็สามารถอัปโหลดโดยอัตโนมัติได้ ผู้ใช้งาน SnapBridge เวอร์ชันนี้ สามารถเลือกภาพทั้งหมดที่จะดาวน์โหลดลงสมาร์ทดีไวซ์ ให้อัปโหลดขึ้น NIKON IMAGE SPACE โดยอัตโนมัติได้ในคราวเดียวกัน
*ฟังก์ชันที่มีให้เลือกใช้งานของแอปพลิเคชัน SnapBridge และ SnapBridge 360/170 จะแตกต่างกัน
*สามารถใช้งานได้บน iPhone(R), iPad(R), iPod touch(R) และอุปกรณ์ Android ที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน SnapBridge แล้ว ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีบน App Store และ Google Play ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของนิคอน
*ฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ทำงานผ่านสัญญาณ Wi-Fi(R) และ Bluetooth(R) ที่มาพร้อมกับกล้องจะใช้งานได้ เมื่อมีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวซ์ที่มีการติดตั้งแอปพลิเคชัน SnapBridge ไว้แล้วเท่านั้น
*ตราสัญลักษณ์และเครื่องหมายคำว่า Bluetooth(R) เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนภายใต้กรรมสิทธิ์ของ Bluetooth SIG, Inc. และการนำเครื่องหมายดังกล่าวมาแสดงใช้โดย Nikon Corporation นั้นอยู่ภายใต้การอนุญาตใช้สิทธิโดยชอบ
*เครื่องหมายการค้าและชื่อทางการค้าอื่นใดทั้งหมดที่ปรากฏเป็นของผู้ถือครองกรรมสิทธิ์โดยชอบด้วยกฏหมาย
ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูล ณ วันตีพิมพ์ อาจมีความเปลี่ยนแปลงในภายหลังได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ครบรอบ 100 ปี นิคอน
นับจากการก่อตั้งบริษัทในปี พ.ศ. 2460 นิคอนได้เติบโตพัฒนาสู่ตำแหน่งผู้นำด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับการถ่ายภาพทั้งในประเทศญี่ปุ่นและครอบคลุมภูมิภาคทั่วโลก ภายใต้ปรัชญาการดำเนินงานของนิคอน "Trustworthiness and Creativity" นิคอนได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำโดยเสมอมา นิคอนมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งกับการเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 100 ปีในปี พ.ศ. 2560 นี้