กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--Vivaldi PR
การแข่งขันวันที่ 2 ของภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 31 ทวีความดุเดือดและสนุกสนานไม่แพ้วันแรกด้วยสภาพลมแรงต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ท้าทายเหล่าลูกเรือให้ต้องใช้ฝีมือ เทคนิค และความทรหดจากการฝึกฝนมาใช้ในการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น เรือไทยไพน์แปซิฟิคขึ้นนำรุ่นพรีเมียร์ ส่วนเรือใบเล็ก ณัฐพงศ์ ยวงงาม ยังคงนำที่หนึ่งในรุ่นท็อปเปอร์ เช่นเดียวกับ กีรติ บัวลง ยังครองตำแหน่งนำในรุ่นเลเซอร์สแตนดาร์ด
มร.ไซมอน เจมส์ ผู้อำนวยการการแข่งขัน อธิบายถึงสนามแข่งขันสำหรับคีลโบ๊ตและมัลติฮัลล์ว่า "สนามคอร์ส เอ มีทั้งทิศทางแบบต้านลมและตามลม หลังจากนั้นจึงเป็นเส้นทางผ่านทางใต้ของเกาะ ส่วนการแข่งขันเรือใบใหญ่ทุกรุ่นในสนามคอร์ส บี จะเริ่มต้นด้วยเส้นทางตามลม โดยเรือในกลุ่มผู้นำสามารถเล่นจบทั้งสนามได้ภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนลำที่ช้าอาจถึง 5 ชั่วโมง วันนี้ลมแรงมากเฉลี่ยที่ 12 นอตและบางช่วงสูงสุดถึง 18 นอต และเนื่องจากการแข่งขันเมื่อวานลมแรงมากทำให้เรือหลายลำต้องซ่อมใบเรือซึ่งส่งผลถึงการแข่งในวันนี้ และต้องเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ด้วย สำหรับการแข่งขันในรุ่นครูซิ่งต้องมีการคำนวณแต้มต่อจากลำเรือ เรือยูมิโนโกนั้นมีความได้เปรียบแต่กลับเกิดการโต้เถียงกันอย่างมากในการจัดกลุ่ม เนื่องจากการคิดแต้มต่อนี่เอง สำหรับวันนี้ถือว่าการแข่งขันมีความดุเดือดและลมแรงดีมาก"
สำหรับไฮไลท์การแข่งขันที่สนุกสนานในวันที่ 2 นี้คงหนีไม่พ้นในรุ่นไออาร์ซี ซีโร่ เมื่อเรือทีเอชเอ 72 ของไทยโดยกัปตันเควินและทอม วิทคราฟท์ แซงคู่แข่งเข้าเส้นชัยทั้ง 2 รอบหลังใช้เทคนิคการปรับตำแหน่งใบจิ๊บเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแล่นด้วยความเร็วและคว้าตำแหน่งแชมป์ของวันไปได้อีกครั้ง ส่วนรุ่นไออาร์ซี 1 เรือคาราซูของกัปตันยาซูโอะ นานาโมริ ยังคงรักษาฟอร์มดีเหมือนวันแรกและครองตำแหน่งผู้นำได้อีกวัน
ส่วนรุ่นไออาร์ซี 2 ทีมบิ๊กบอยส์เรซิ่ง (ฟาร์โก้ เอ็กซ์เพรส) จากจีน ซึ่งนำโดยกัปตันเฉิน เซิง คว้าที่ 1 ตามด้วย ทีมเรือกะตะร็อคส์ของกัปตันปีเตอร์ ไดเออร์ โดยกัปตันปีเตอร์กล่าวว่า "เนื่องจากเรือของเรามีน้ำหนักเบาที่สุดในรุ่น เราจึงหวังว่าพรุ่งนี้ลมจะเบาลงบ้าง การแข่งขันในวันจันทร์ที่ผ่านมาน่าอัศจรรย์มาก โดยเราพยายามเกาะกลุ่มและแล่นเรืออย่างระมัดระวัง ในขณะที่ทีมเรือใบอื่น ๆ ต้องประสบความลำบากจากการกางใบเรือสปินเนเคอร์และสลับถ่วงน้ำหนักเรือจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ทำให้เมื่อวานเราเข้าวินทั้ง 3 รอบได้อย่างเหลือเชื่อ ส่วนในวันนี้ เราค่อนข้างพอใจกับการเล่นแบบตั้งรับของทีมเรา เพราะเราไม่เคยแล่นเรือได้เร็วที่สุดในสนามทางไกลที่มีเส้นทางรูปตัว J แบบนี้ วันนี้เรานี้ต้องอาศัยทีมเวอร์คมากกว่าประสิทธิภาพของเรือ และพยามทำผลงานให้ดีต่อเนื่องเพื่อสร้างโอกาสการได้เปรียบทีมคู่แข่ง เราได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้ลมจะเบาลงและโอกาสเป็นของเราบ้าง แต่โดยรวมถือว่าเราเริ่มต้นสัปดาห์การแข่งขันได้เยี่ยมมาก"
นายอิทธินัย ยิ่งศิริ กัปตันเรือไพน์ แปซิฟิก ซึ่งสามารถคว้าตำแหน่งผู้นำในในรุ่นพรีเมียร์ของการแข่งวันที่ 2 ได้ กล่าวถึงภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าและการแข่งขันเรือใบรายการอื่น ๆ ในเอเชีย ว่า "เราได้ลงแข่งขันในรายการไชน่าคัพเมื่อเดือนตุลาคม 2559 ด้วยเรือรุ่น J80 ซึ่งทีมเรือและลูกเรือ 80-85% นั้นเป็นชาวจีน ในขณะที่รายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าและการแข่งขันเรือใบอื่น ๆ ในประเทศไทยมีลูกเรือชาวไทยเพียงไม่ถึง 5% วงการเรือใบจึงควรส่งเสริมให้คนไทยได้มีโอกาสสัมผัสกับกีฬาเรือใบและร่วมการแข่งขันเรือใบกันให้มากขึ้น"
"เมืองไทยมีนักแล่นเรือใบเล็กที่มีฝีมือโดดเด่นหลายคน แต่การจะขยับไปเล่นเรือใบใหญ่คีลโบ้ทยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก เพราะจริง ๆ แล้วโอกาสค่อนข้างน้อย ซึ่งเราต้องพยายามสนับสนุนให้มากกว่านี้ รายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าถือเป็นเวทีที่สร้างโอกาสดังกล่าวได้ดีมากในการสนับสนุนให้นักกีฬาเรือใบเล็กของไทยได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันเรือใบใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดรายการหนึ่งของโลก การได้ร่วมแข่งขันในรายการเรือใบใด ๆ ก็ตามล้วนเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเพราะผู้เล่นจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม และทดสอบกำลังใจและทีมเวิร์คได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในรายการแข่งขันเรือใบอันทรงเกียรติอย่างภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ซึ่งมีประวัติความเป็นมาอันน่าภาคภูมิใจ" กัปตันเรือไพน์ แปซิฟิก กล่าวสรุป
สภาพอากาศอันท้าทายของวันที่ 2 ยังทำให้เราได้เห็นการแข่งขันอันเข้มข้นของเรือใบใหญ่แบบคาตามารัน โดยเรือวูดู ของกัปตันฮานส์ ราห์มานน์ คว้าตำแหน่งผู้นำของวันนี้ไปในรุ่นไฟร์ฟลาย 850 ส่วนทีมเรือธอร์จากสหราชอาณาจักรชนะไปอีกครั้งในรุ่นมัลติฮัลล์เรซิ่ง ในขณะที่เรือโมโจมัลติฮัลล์โซลูชั่นส์ (โดยกัปตันริค ฟีลดิ้ง) ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในรุ่นมัลติฮัลล์ครูซิ่ง ท่ามกลางสภาพอากาศสดใส แสงแดดกล้าและคลื่นลมแรง ซึ่งทุกคนต่างหวังว่าในการแข่งขันวันต่อ ๆ ไปจะมีสภาพอากาศเช่นนี้
การแข่งขันเรือใบเล็ก "อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้" วันที่ 2 สนับสนุนโดย บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) มีผู้ชนะในแต่ละรุ่นดังนี้: สุธน แย้มพินิจ (เลเซอร์ 4.7), ณัฐพงศ์ ยวงงาม (ท็อปเปอร์), เจตวีร์ ยงยืนนาน (ออพติมิสต์ชาย), พัชรี ศรีงาม (ออพติมิสต์หญิง), กีรติ บัวลง (เลเซอร์สแตนดาร์ด), พ.จ.อ.มนัส โพธิ์ทอง (เลเซอร์เรเดียล), และทีมของ อดิศักดิ์ กิ่งแก้ว และ กรรณชัย วงผดุง (420)
การแข่งขันเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 31 ดำเนินการโดยคณะกรรมการจัดงานการแข่งขันเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ภายใต้สโมสรเรือใบราชวรุณ และร้องขอการสนับสนุนจากกองทัพเรือ สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย และจังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้สนับสนุน ได้แก่ กะตะกรุ๊ป รีสอร์ท ประเทศไทย, สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.kingscup.com