กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์' หรือ JWD ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ภาคพื้นดิน ทางเรือและทางอากาศอย่างครบวงจร ผนึกกลุ่ม Samudera ยักษ์ใหญ่สายการเดินเรือจากอินโดนีเซีย ตั้งบริษัทร่วมทุนรุกโลจิสติกส์ครบวงจรในอินโดนีเซีย ประเดิมเข้าซื้อหุ้น 67% ในบริษัทที่ดำเนินกิจการคลังห้องเย็นในเมืองจาการ์ต้า ส่งผลดีต่อการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการลงทุนทางอ้อมของ JWD ผ่านบริษัทร่วมทุน พร้อมวางแผนลงทุนขยายคลังห้องเย็นในเมืองอื่น ๆ เพิ่มเติม ตั้งเป้าสร้างเครือข่าย Food & Cold Supply Chain แห่งอาเซียน ด้านผู้บริหารบริษัท PT. Samudera Sarana Logistik ในเครือ PT. Samudera Indonesia Tbk ระบุต้องการต่อยอดขยายธุรกิจโลจิสติกส์ภาคพื้นดินที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ภาคพื้นดิน ทางเรือและทางอากาศอย่างครบวงจร (Total Logistics Solutions Provider) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มองโอกาสขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายเป็นผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน โดยล่าสุด JWD Asia Holding Private Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ โดย JWDถือหุ้น 99.98% ได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัท PT. Samudera Sarana Logistik จากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ PT. Samudera Indonesia Tbk ผู้ประกอบธุรกิจสายการเดินเรือรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ 'PT. Samudera JWD Logistics' ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 7.8 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณกว่า 26 ล้านบาท) โดยมี JWD Asia Holding Private Limited ถือหุ้น 49% และ PT. Samudera Sarana Logistik ถือหุ้น 51% เพื่อเป็นบริษัทโฮลดิ้งเข้าลงทุนและถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจรในอินโดนีเซีย โดยเน้นการลงทุนในธุรกิจ 3 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจห้องเย็น ธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ และธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตราย
"ปัจจุบัน JWD มีฐานธุรกิจคลังห้องเย็นและขนส่งในประเทศไทยที่แข็งแกร่งและได้ขยายการลงทุนในกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์และอินโดนีเซีย ซึ่งการร่วมทุนครั้งล่าสุดกับSamudera ถือเป็นก้าวสำคัญในการรุกตลาดโลจิสติกส์ในอินโดนีเซีย โดยจะเริ่มต้นจากการเข้าลงทุนในธุรกิจห้องเย็นที่มีความต้องการสูง ซึ่ง JWD วางเป้าสร้างเครือข่าย Food & Cold Supply Chain แห่งอาเซียน ครอบคลุมบริการเบ็ดเสร็จ ตั้งแต่บริหารคลังห้องเย็น ขนส่ง ขนส่งข้ามแดน Freight Forwarder บริการเสริมอื่น ๆ รวมไปถึง การจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบให้กับลูกค้า ขณะเดียวกัน เราจะมองโอกาสขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง และภายในปี 2563 เราวางแผนขยายในประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะมีฐานธุรกิจโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนครบ 9 ประเทศ (ยกเว้นประเทศบรูไน) เน้นสร้างเครือข่ายและเชื่อมต่อการให้บริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน โดยใช้โมเดลธุรกิจในรูปแบบ Total Solutions ที่มีบริการอย่างครบวงจร" นายชวนินทร์ กล่าว
นายธเนศ พิริย์โยธินกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ JWD กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ JWD จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเป็นที่เรียบร้อย บริษัท PT. Samudera JWD Logistics (บริษัทร่วมทุน) จะใช้เงินลงทุนประมาณ 7.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณกว่า 260 ล้านบาท) เข้าซื้อหุ้น 67% ในบริษัท Adib Cold Logistics หรือ ACL ซึ่งอยู่ในเครือ Adib Group โดย ACL เป็นบริษัทท้องถิ่นที่ดำเนินธุรกิจคลังห้องเย็นและขนส่งในเมืองจาการ์ต้า มีความจุสินค้าประมาณ 7,000 พาเล็ต ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการใช้พื้นที่คลังห้องเย็นประมาณ60% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 80-90% ในเดือนมีนาคม 2561 หลังจากมีลูกค้ารายใหม่เตรียมเช่าพื้นที่เก็บสินค้า
การเข้าลงทุนครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการลงทุนทางอ้อมของ JWD ผ่านบริษัทร่วมทุน ตั้งแต่ มกราคม 2561 เป็นต้นไป โดยคาดการณ์บริษัท Adib Cold Logistics จะมีรายได้ในปีนี้ประมาณ 4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 140 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิประมาณกว่า 10% นอกจากนี้ ยังมีแผนลงทุนก่อสร้างคลังห้องเย็นแห่งใหม่และเพิ่มจำนวนรถขนส่งในกรุงจาการ์ต้า และมีแผนขยายการลงทุนคลังห้องเย็นในเมืองอื่น ๆ เช่น เมืองสุราบายา, เมดาน เนื่องจากปัจจุบันมี ผู้ให้บริการคลังห้องเย็นและโลจิสติกส์ไม่เพียงพอกับความต้องการ
นาย Yudi Riyadi President Director of PT SAMUDERA SARANA LOGISTIK กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์รวมถึงการจัดการตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งอยู่ในเครือของ PT. Samudera Indonesia Tbk ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1953 (พ.ศ. 2496) หรือกว่า 60 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีธุรกิจหลัก 5 กลุ่ม ที่ดำเนินการภายใต้แบรนด์ 'Samudera' ได้แก่ ธุรกิจท่าเรือ (Samudera Terminal) ธุรกิจตัวแทนเดินเรือ (Samudera Shipping) ธุรกิจอู่ต่อเรือ (Samudera Shipyard) ธุรกิจโลจิสติกส์ (Samudera Logistics) และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Samudera Property) ซึ่งมีพนักงานรวมประมาณกว่า 4,000 คน มีสำนักงานสาขากว่า 17 แห่งในภูมิภาคเอเชียและเมืองดูไบ
การตัดสินใจร่วมทุนกับ JWD ในครั้งนี้ เนื่องจาก Samudera มีความต้องการขยายธุรกิจโลจิสติกส์แบบครบวงจรในประเทศอินโดนีเซีย จึงมองหาพาร์ทเนอร์ร่วมลงทุน โดยมองว่า JWD เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์มายาวนาน มีความเป็นมืออาชีพและเชี่ยวชาญด้านการให้บริการจัดการธุรกิจห้องเย็น ธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตราย รวมถึงธุรกิจรับฝากและให้บริการโลจิสติกส์ยานยนต์ ขณะที่ Samudera ก็มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจสายการเดินเรือและโลจิสติกส์ จึงเชื่อว่าจะเป็นการร่วมทุนที่วิน-วินทั้งสองฝ่าย โดยแต่ละฝ่ายสามารถใช้องค์ความรู้ที่มีอยู่นำมาต่อยอดขยายธุรกิจร่วมกันเพื่อสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้น ด้วยการเข้าลงทุนในกิจการของบริษัทต่าง ๆ ที่มีศักยภาพ
"ปัจจุบันอุตสาหกรรมการให้บริการด้านโลจิสติกส์เกี่ยวกับการธุรกิจห้องเย็น สินค้าอันตรายและยานยนต์ในประเทศอินโดนีเซียกำลังเติบโตได้ดี จากปัจจัยการขยายตัวของประชากร ธุรกิจร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ เนื่องจากอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในฐานการผลิตรถของภูมิภาคอาเซียน จึงมีความต้องการผู้ให้บริการโลจิสติกส์ภาคพื้นดินที่มีความเชี่ยวชาญ เราจึงมองว่าเป็นโอกาสดีในการร่วมทุนกับ JWD เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันในครั้งนี้" นาย Yudi Riyadi กล่าว