กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--พาร์ทูโกล
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้เปิดตัว รายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Market Outlook เป็นครั้งแรก คาดปี 2561 ตลาด ฟื้นตัวตามแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยคอนโดมิเนียมยังคงเป็นอสังหาฯ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มผู้บริโภค
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เว็บไซต์สื่อกลางซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เผยรายงานฉบับดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการหันมาให้ความสำคัญกับเป้าหมายกลุ่มดังกล่าวมากขึ้น
สำหรับ DDproperty Property Market Outlook 2018 เป็นรายงานภาพรวมตลาดอสังหาฯ ที่รวบรวมข้อมูลดัชนีราคา (Price Index) ดัชนีฝั่งอุปทาน (Supply Index) ภาพตลาดที่อยู่อาศัยประเภทต่างๆ ทั้งตลาดซื้อ-ขายและตลาดเช่า รวมไปถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (Consumer Sentiment) ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา เพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อยอดและคาดการณ์แนวโน้มของตลาดในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภค ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะผู้ซื้อ ผู้ขาย หรือผู้เช่าอสังหาฯ ได้เข้าใจถึงสถานการณ์ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถวางแผนหรือตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
ในช่วงปี 2559-2560 ที่ผ่านมา ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากการเปิดตัวโครงการต่างๆ ตามแนวรถไฟฟ้าและขยายตัวออกไปยังพื้นที่รอบๆ กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม อุปสงค์เริ่มชะลอตัวลงในช่วงปีที่ผ่านมาหลังจากที่มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลสิ้นสุดลงในไตรมาสที่ 2 ของปี 2559 ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจในภาพรวมยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ทำให้ผู้บริโภคเกิดความลังเลในการตัดสินใจซื้อ
"ดีดีพร็อพเพอร์ตี้คาดว่าในปี 2561 แนวโน้มอุปสงค์จะเริ่มฟื้นตัว โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายของประชาชนที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ รวมทั้งความคืบหน้าของบรรดาเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ ของภาครัฐไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย รวมไปถึงโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) " คุณกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าว
"ทางด้านอุปทาน ในปี 2561 เราน่าจะได้เห็นโครงการใหม่ๆ จากผู้ประกอบการหลายราย ในปริมาณที่มากขึ้นกว่าปี 2560 ดังนั้นตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีทิศทางที่สดขึ้นในปีหน้า"
อุปทานคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นในปี 2561
รายงานดัชนีอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Index ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาคอนโดมิเนียมมีการเติบโตสูงสุดที่ระดับ 209 ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2560 เมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงระดับอุปสงค์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2561 คาดว่าผู้ประกอบการจะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ในพื้นที่ศักยภาพใหม่ๆ รวมไปถึงพื้นที่ในเขตระเบียงเศรษฐกิจทางภาคตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เป็นต้น
ตลอดปี 2560 ผู้ประกอบการได้เปิดตัวโครงการต่างๆ คาดว่าทั้งปีจะมีจำนวนรวมกันมากกว่า 45,000 ยูนิต นับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากปี 2559 โดยปริมาณอุปทานน่าจะเติบโตขึ้นในปีหน้าหากรัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการที่รัฐบาลมีมาตรการหรือนโยบายออกมาสามารถช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ได้รับอานิสงส์นั้นด้วย
จากผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภค (Consumer Sentiment Survey) โดยดีดีพร็อพเพอร์ตี้ สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคไม่คิดว่าราคาอสังหาริมทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และคิดว่าราคาจะยังคงทรงตัวต่อไปในช่วง 6 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคคาดว่า ราคาน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 5 – 10 ในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยราคาของอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมน่าจะปรับตัวขึ้นสูงที่สุด
ผู้ประกอบการเล็งตลาดกลุ่มผู้สูงวัย
ในแต่ละเดือน ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ช่วยผู้บริโภคมากกว่า 3 ล้านคนค้นหาบ้านที่ "ใช่" เป็นของตัวเอง และจากฐานข้อมูลพบว่า ทำเลนอกเขตศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (City Fringes) เช่น รัชดา ลาดพร้าว และพระราม 9 เป็นที่นิยมของผู้บริโภค โดยปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญในการตัดสินใจซื้อ 3 ประการประกบอด้วย ที่ตั้ง สิ่งอำนวยความสะดวก และราคา
"ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ผู้บริโภคหลายรายชะลอการซื้ออสังหาริมทรัพย์เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และสงวนท่าทีรอดูว่ารัฐบาลจะมีมาตรการใดๆ ออกมาสนับสนุนให้ประชาชนมีอสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเองง่ายขึ้นหรือไม่" คุณกมลภัทร กล่าว อย่างไรก็ดี เป็นที่คาดว่าระดับความพึงพอใจของผู้บริโภคในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 รวมไปถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2561 จะปรับตัวดีขึ้น โดยมีแรงส่งจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงระดับหนี้ครัวเรือนที่ปรับตัวลดลง ?
"นอกจากเราจะได้เห็นผู้ประกอบการแข่งขันกันเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ด้วยการชูนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายมากขึ้นแล้ว เราคาดว่าในปี 2561 ผู้ประกอบการจะให้ความสำคัญกับโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ หรือออกแบบโครงการให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกและฟังก์ชั่นต่างๆ รองรับการใช้ชีวิตของกลุ่มผู้สูงวัยมากขึ้นด้วย ซึ่งสอดคล้องไปกับทิศทางของประเทศไทยที่กำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในอีก 7 ปีข้างหน้า" คุณกมลภัทร กล่าวสรุป