ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บล. เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์” ที่ “A/Stable” พร้อมยกเลิกอันดับเครดิตหุ้นกู้

ข่าวทั่วไป Thursday November 29, 2007 08:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด ที่ระดับ “A” เช่นเดิม แต่ยกเลิกอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาทตามความประสงค์ของบริษัทเนื่องจากบริษัทยังไม่มีแผนในการออกหุ้นกู้ ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิตยังเป็น “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตสะท้อนถึงความสามารถของคณะผู้บริหาร ความสามารถในการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ภายใต้ระบบเครดิตบาลานซ์ ตลอดจนการบริหารสินทรัพย์ที่ดี และสภาพคล่องที่เพียงพอ นอกจากนี้ยังสะท้อนแนวโน้มที่ดีของตลาดหลักทรัพย์ในระยะปานกลางซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัท แม้ว่าการลงทุนของบริษัทในตราสารทุนผ่านกองทุนรวมจะให้ผลตอบแทนที่ดี แต่สินทรัพย์ประเภทนี้ก็มีความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงมูลค่าตามการซื้อขายของตลาดกลาง ดังนั้นจึงอาจทำให้ผลประกอบการของบริษัทมีความผันผวนตามไปด้วย
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่บริษัทจะสามารถดำรงความเป็นผู้นำในธุรกิจให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เอาไว้ได้ อีกทั้งยังคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในขณะที่ยังคงขยายสินเชื่อต่อไป และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทน่าจะยังคงอยู่ในระดับที่ดีต่อไปโดยที่บริษัทยังคงนโยบายการอนุมัติสินเชื่อและการติดตามผลที่ระมัดระวัง
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บล. เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์เป็นผู้ประกอบการรายเดียวในประเทศที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการให้สินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ รวมถึงการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ การให้สินเชื่อโดยจำนำหลักทรัพย์ และการขายหลักทรัพย์โดยมีสัญญาว่าจะซื้อคืน ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นในปี 2546 บริษัทได้กลายเป็นผู้นำในธุรกิจการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 22% ในปี 2546 และเพิ่มเป็น 32% ในปี 2547 เป็น 29% ในปี 2548 แล้วลดลงเป็น 25% ในปี 2549 และ 26% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 ปัจจุบันเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เกือบทั้งหมดของบริษัทได้รับการจัดชั้นปกติ ในขณะที่เงินลงทุนของบริษัทส่วนใหญ่อยู่ในรูปของตราสารหนี้ภาครัฐและกองทุนรวม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2550 บริษัทมีสัดส่วนการลงทุนผ่านกองทุนรวมในตราสารทุนทั้งสิ้น 2.93 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 21.3% ของสัดส่วนการลงทุนทั้งหมดของบริษัท
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ด้วยความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของผู้บริหาร ตลอดจนความต่อเนื่องในการพัฒนาระบบควบคุมความเสี่ยงซึ่งนอกจากจะทำให้ บล. เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์รักษาความเป็นผู้นำในการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์แล้ว บริษัทยังมีผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้น โดยผลกำไรของบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วจาก 130 ล้านบาทในปี 2543 เป็น 242 ล้านบาทในปี 2547 ภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ฟื้นตัวเป็นอย่างมากตั้งแต่ปี 2546 ส่งผลให้บริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงการเปิดให้บริการสินเชื่อเพื่อซื้อหุ้นของบริษัทที่เสนอขายแก่กรรมการและพนักงานของบริษัทต่างๆ (ESOP) และบริการทางการเงินอื่นๆ ที่มีรายได้เป็นค่าธรรมเนียมด้วย ทำให้บริษัทมีแหล่งรายได้ที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีธุรกรรมใหม่อื่นๆ อีก เช่น การค้ำประกันกองทุนรวม และการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) ทว่าความสามารถในการสร้างรายได้จากธุรกรรมดังกล่าวยังต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง บริษัทรายงานผลกำไรที่ลดลงที่ระดับ 165 ล้านบาทในปี 2548 แต่ปรับตัวดีขึ้นเป็น 295 ล้านบาทในปี 2549 และ 254 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 13.18% และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1.42% (ยังไม่ได้ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปี) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2550
สัดส่วนสภาพคล่องของบริษัทอยู่ในระดับที่เพียงพอ โดยบริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแหล่งเงินทุนต่างๆ แม้ว่าโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะอ่อนแอลงจากการขยายตัวที่รวดเร็วของสินทรัพย์ แต่บริษัทยังมีเงินทุนที่เพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจในระดับปกติ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2550 ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทเติบโต 15% เป็น 2,062 ล้านบาท จาก 1,793 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2549 โดยมีอัตราส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 11.00% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2550 จาก 10.56% ณ สิ้นปี 2549 โดยอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 18.6% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2550 ทริสเรทติ้งกล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (ทริสเรทติ้ง)
โทรศัพท์ 0-2231-3011 ต่อ 500 โทรสาร 0-2231-3012
E-mail: rapee@tris.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ