กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--คเณชา แกลลอรี่ หัวหิน
เมื่อพูดถึงสถานที่แสดงผลงานศิลปะภาพวาดและประติมากรรมแห่งศรัทธาจากอุดมคติแห่ง "องค์พระพิฆเนศ" มหาเทพผู้ปัดเป่าอุปสรรค นำทางสู่ความสำเร็จ เชื่อว่าทุกคนต้องนึกถึง แกลลอรี่พิพิธภัณฑ์พันล้าน "คเณชาแกลลอรี่ หัวหิน" ของ "คุณหน่อย-ผ่องสิริ วงศ์เจริญชัยชนะ"
@ค้นพบแรงจูงใจบูชาครั้งแรก
คุณหน่อย เปิดใจให้ฟังว่า บ้านเกิดอยู่จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแรงบันดาลใจจากการทำธุรกิจมา เมื่อถึงเวลาเจออุปสรรคอะไรมากมาย ทำหลายธุรกิจผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ จนมาเจอรูปภาพพ่อรูปหนึ่ง ก่อนจะมาทำแกลลอรี่ได้เปลี่ยนไปทำอสังหาริมทรัพย์แล้วก็ไปเจอสถานที่หนึ่ง แล้วเป็นคนที่ชอบทำแต่งานไม่หยุดหย่อนเลย ว่าง่ายๆ คือบ้างาน งานสร้างรีสอร์ทที่จังหวัดกาญจนบุรี พอดีเราเจอหาดทรายเจอธรรมชาติก็ทำไป พอทำไปมันไม่ใช่งานผู้หญิงแล้วเป็นงานผู้ชาย ใครไปปุ๊บก็ร้องว้าวบอกว่าสถานที่นี้เจ้าของน่าจะเป็นผู้ชายอายุประมาณ 60-70 ปี แต่ตอนนั้นหน่อยอายุ 40 ปีเอง
ต่อมาช่วงปี 2553 เจอวิกฤตบ้านเมืองมากมาย เผอิญจัดงานออกบูธที่อิมแพ็คไปออกงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมธุรกิจของที่บ้าน เราก็เดินหาของขวัญปีใหม่ ตอนนั้นน่าจะย้อนกลับไปประมาณ 7 ปีที่แล้วได้เดินผ่านไปเจอภาพรูปพ่อรูปหนึ่ง เดินผ่านไปแล้วแต่เหมือนมีแรงดึงดูดให้เดินกลับถอยหลังมาแล้วหยุดกับภาพนี้ หยุดปุ๊บน้ำตาไหลออกมา แต่เราไม่ใช่คนที่ว่าใช้น้ำตาตัดสินใจ ไม่ใช่คนร้องไห้ง่ายๆ ยืนกอดอกดูอยู่สักพัก พิจารณาภาพเสร็จน้ำตาไหลก็เช็ดว่าเราเป็นอะไรก็เลยมีสติขึ้นมา มองภาพแล้วถามพ่อว่าเป็นเทพของทุกๆ คน เวลาเจอปัญหาต่างๆ ก็พึ่งพ่อ พ่อเป็นเทพแห่งความสำเร็จ เป็นเทพแห่งสติปัญญา ซึ่งรูปนี้นำเข้าสู่การบูชา "องค์พระพิฆเนศ" แบบจริงจัง
@เจอภาพจุดเปลี่ยนในชีวิต
ด้วยความที่เราทำธุรกิจอื่นมาก่อนอยู่แล้ว มีอสังหาริมทรัพย์และงานผลิตท่อเหล็กร้อยสายไฟฟ้า คือพอถึงจุดพีคเลยหักเหมาทำรีสอร์ท จนมาเจอพ่อนี่แหละจบงานได้ลง รีสอร์ทชื่อ "หาดบ้านดินรีสอร์ท" ตั้งอยู่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี บรรยากาศภายในเหมือนหลุดเข้าไปอยู่อีกเมืองหนึ่ง ไฮไลท์อยู่ที่ห้องพักและหาดทรายธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองกาญจน์ สร้างแล้วเสร็จช่วงปี 54 ตอนนี้ก็เน้นคนไทย เน้นจัดสัมมนา ด้วยอุดมการณ์ตัวเองเป็นคนชอบช่วยเหลือทางด้านการศึกษา ก็เลยมองคนไทยทำแต่งาน บางคนทำจริงจังแต่ไม่ให้เวลากับตัวเอง เราก็มองเป็นสถานที่พักผ่อนมาชาร์ตแบตกันดีกว่า มาแล้วต้องมาถึงมาเจอธรรมชาติด้วย
คุณหน่อย เล่าให้ฟังต่อว่า ธุรกิจหลักเดิมเป็นท่อเหล็ก แบรนด์นิปปอนไวท์คอนดุ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2536 จากนั้นปี 2549 เริ่มเบนหันมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ใช้หนึ่งสมองสองมือทำธุรกิจมาระดับร้อยล้านทั้งนั้น ประสบความสำเร็จมาเรื่อยๆ มาจนเข้าสู่ช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจรู้สึกเศร้าแล้วได้มาเจอภาพจุดเปลี่ยนในชีวิต นั่นก็คือภาพของพ่อเสวยสุขบนเสี้ยวพระจันทร์ ทำไมถึงร้องไห้เพราะคิดว่าเราเป็นคนที่โง่เนอะ ทำไมทำแต่งาน ทำไมไม่แบ่งเวลาให้ตัวเอง ก็เลยอ่านภาพพ่อว่าพ่อเหนื่อยกว่าเราเยอะแยะมากมาย แต่พ่อยังจัดสรรเวลาเสวยสุข หลังจากนั้นไม่ทำงานเลย อยากนอนก็นอน อยากกินก็กิน สุดท้ายสติกลับมาที่คาราคาซังและปัญหาต่างๆ ภายใน 3 เดือนก็สามารถเคลียร์จบทั้งหมด
@ต้นกำเนิดเกิดแกลลอรี่พันล้าน
จุดเปลี่ยนเป็นพลังเห็นจะเป็นห้วงเวลาความเครียดหรืออะไรก็ตาม แค่มองพ่อสักพักนึงก็โอเค รู้สึกว่าเราเดินต่อ เหนื่อยก็พัก มองรูปภาพ ดูรูปพ่อแล้วทำให้เดินต่อได้ คิดได้ทุกอย่างก็เลยมีแรงบันดาลใจว่า เราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือคนที่เจอปัญหาเช่นเดียวกับเรา จึงเป็นที่มาของการสร้างแกลลอรี่ขึ้นมาเป็นภาพที่สะสมเอง พอทำไปทำมามันบานปลาย ตอนแรกจะสะสมภาพอย่างเดียวก็เกิดงานประติมากรรมก็คือ "คเณชามรรคา ปางมรรคา" เป็นเทพชี้ทางสว่าง ไม่ว่าจะเหนื่อย จะคิดอะไรไม่ออก ก็จะมองพ่อ การที่พ่อชี้นิ้วคือพ่อให้สู้ต่อเดินต่อ พ่อยืนบนก้อนหินก้อนหน้าผาคือไม่มีอะไรที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ บางครั้งเราก็ล้ม บางครั้งเราก็สะดุด
การบูชา "องค์พระพิฆเนศ" เป็นเรื่องปกติของคนทั่วไป แต่การบูชาแบบเริ่มสะสมรูปร่วม 200 กว่าภาพ แล้วแต่ละภาพมีมูลค่าหลายสิบล้าน รวมกันเป็นพิพิธภัณฑ์พันล้านบาท ในที่สุดได้รับความนิยมกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนศรัทธาและสักการะบูชา
@หนุนจิตรกรสร้างสรรค์ผลงาน
คุณหน่อย บอกว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2557 มีการจัดกิจกรรมง่ายๆ ให้พ่อได้ช่วยเหลือเพิ่มพลังให้ผู้คนมากมาย เช่น บินมาจากเชียงใหม่ก็ดิ่งตรงมาหาพ่อ ฝรั่งต่างชาติมาเห็นงานของคนไทยเขาก็ไม่เชื่อเลยว่าคนไทยมีแกลลอรี่ที่สวยงดงามได้ขนาดนี้ด้วยเหรอ นี่คือสิ่งที่เขาชื่นชม เขาชอบมาก แฮปปี้มากกับตรงนี้ บางคนเดินอยู่ครบทุกชั้นจนบอกว่าขอขึ้นไปนั่งสมาธิได้ไหมเพราะมีความรู้สึกศรัทธาในองค์พ่อองค์นี้มาก ที่ผ่านมาจิตรกรศิลปินแต่ละคนที่วาดรูป เขาบอกว่าเจอเราเหมือนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ทุกงวด คือเป็นคนสนับสนุนศิลปินทุกคนที่วาดรังสรรค์ "องค์พระพิฆเนศ" เราคิดว่าที่เราต้องมาสร้างองค์พระพิฆเนศเพราะฟ้าลิขิตมาแล้ว มันหนีไม่พ้น ด้วยตัวเราเองก็ชอบทำบุญ ชอบช่วยคนด้อยโอกาส ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ถ้ามีโอกาสเราก็อยากแบ่งปัน ศิลปะบ้านเราสวยงามมาก บอกตรงๆ ไม่ชอบไปเที่ยวเมืองนอกเลยนะ บ้านเราก็มีดีนะ ก็ลองทำดู เห็นเขาไปเที่ยวเมืองนอกก็คิดว่าทำไมคนไทยไม่ทำบ้างนะ เอาเงินออกนอกประเทศทำไม ทำไมไม่ดึงดูดมาก็เลยลองดู"
@น้อมคารวะภาพ "เสวยสุขครองบัลลังก์"
กว่า 200 รูปที่มีอยู่ในวันนี้เมื่อพูดถึงภาพท็อปนัมเบอร์วันของพิพิธภัณฑ์ที่ใครๆ มาถึงล่ะต้องมาน้อมคารวะพร้อมยืนถ่ายรูปเซลฟี่ด้วย คือ ชื่อภาพ "เสวยสุขครองบัลลังก์" ไซส์ประมาณเกือบ 2 เมตร ลงกระดาษอาร์ตด้วย ลงผ้าใบด้วยแล้วแต่ท่านที่ไปแล้วเช่ากลับมาบูชาที่บ้าน โปสการ์ดก็มี รูปขนาดย่อมก็มี รูปที่มีช้างคือ บัลลังก์เอราวัณ มี 33 เศียร ความหมายคือลักษณะผู้นำที่มีบริวารเยอะ ภาพนี้จะไปเสริมบารมีให้ได้ ส่วนอีกภาพในความเชื่อส่วนตัวเป็นภาพทรงครุฑเหมาะกับข้าราชการ ข้างล่างครุฑอีกทีมีพญานาค แต่อันนี้เป็นพระพิฆเนศขี่ครุฑขี่พญานาค พาหนะของแต่ละเทพท่านก็อนุญาตให้พระพิฆเนศทรงพาหนะของเทพองค์อื่น ท่านที่มีอาชีพหรือความต้องการที่แตกต่างกันก็จะบูชาภาพปางที่ไม่เหมือนกัน
"แต่ละรูปมีราคาค่อนข้างสูง เพราะเป็นออริจินอล ที่ไม่ได้เปิดจำหน่ายให้คนประมูลหรือครอบครองเลย เพราะคิดว่าภาพออริจินอลถ้าอยู่กับคเณชาฯ ณ วันนึงคนหลายสิบล้านคนก็จะยังเห็นภาพนี้อยู่ คนมาเห็นแต่ละภาพก็แตกต่างกันไป ก็มีความสุข มาเช่าภาพไป เขามีความสุขกับสิ่งที่เขาเห็น ก็แฮปปี้มาก"
@ "องค์พระพิฆเนศ" เหมาะคนค้าขาย
ต่อคำถามที่ว่าจะมีการสนับสนุนจิตรกรที่มีฝีมือในการวาดรูปไหม ขอตอบว่าทั้งตึกอาคารของคเณชาฯ เป็นพระพิฆเนศทั้งหมด ภาพที่สะสมไว้ก็จะติดให้ทุกคนได้ชมกัน แล้วจะมีชั้นหนึ่งที่ตั้งใจไว้ว่า สักวันเกษียณ อยากช่วยศิลปินรุ่นหลังที่อยากมาวาดภาพพระพิฆเนศถวายแด่พระองค์ ทางคเณชาฯ ก็น้อมรับ ก็อาจจะมีกิจกรรมช่วยเหลือทางด้านศิลปะการศึกษาต่างๆ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจคเณชาแกลลอรี่ หัวหิน ซอย 55
นอกจากนี้ คุณหน่อย ยังแชร์เรื่องราว "องค์พระพิฆเนศ" ไว้น่าสนใจว่า เหมาะสำหรับคนค้าขาย คนที่ศรัทธาจะมาขอพรท่านทุกวัน เช่น ถ้าได้ยอดขายก็จะมาซื้ออันนี้อันนั้นอะไรแบบนี้มาถวาย หรือบางคนก็มาเปิดไพ่ยิปซีดู ซึ่งกำลังเป็นไฮไลท์ของคเณชาฯ ที่นี่เลย ทุกคนสามารถจับจองได้ บางคนที่ดูไพ่เป็นก็จะเอาไพ่ไปดู พอเห็นโปรดักซ์ของเราก็ไม่ดู เสียดาย ซื้อเก็บดีกว่า ภาพยังมีอีกหลายปาง มีปางอนันตนาคราช มีหลายไซส์ด้วย เวลาเราเหนื่อยหรือเครียดจะชอบดูปางเด็ก เราจะมีความสุขเมื่ออยู่กับท่านตอนปางนี้ เหมือนมันหายเหนื่อย ปางนี้เหมือนเป็นของขวัญสำหรับคนแต่งงานใหม่ๆ เอาไปให้สบายใจเป็นสิริมงคล อีกอันเป็นปางไม่ให้คนท้อ ไม่ให้คนกลัวปัญหาต่างๆ ทุกอย่างเวียนว่ายตายเกิด มีเมืองสวรรค์ เมืองมนุษย์ เมืองนรก
@สุขทางใจ รวยกว่าเงิน ถึงไม่กินก็อิ่ม
ถามถึงขั้นตอนการบูชา "องค์พระพิฆเนศ" คุณหน่อย เผยเคล็ด (ไม่) ลับว่า ไม่จำเป็นต้องบูชามีองค์ท่านฯ ก็ได้หรือเป็นรูปก็ได้ ท่านทานแค่น้ำส่วนมากจะเป็นน้ำแดง น้ำหวาน ไม่ต้องเติมน้ำก็ได้ เอาแบบข้นๆ ท่านชอบ แล้วก็ผลไม้ อาทิ อ้อย อาจมีน้ำผึ้งบ้าง มีนมบ้าง หรือจะถวายดาวเรืองหรือดอกกุหลาบก็ได้ แต่อย่าขึ้นของคาว แล้วถ้าอยากได้เงินให้ถวายอ้อย แต่บางคนไปขอพรแล้วเอาหนูตัวเล็กๆ ไปถวายถามว่าจะดีหรือเปล่า ส่วนตัวมองเป็นความเชื่อแต่ละบุคคล เท่าที่ทราบเวลาจะขออะไรจากพ่อ ให้ขอผ่านหนู เพราะหนูเป็นองครักษ์ของพ่อ แค่กระซิบบอกหูหนู แล้วหนูจะไปกระซิบบอกพ่อ
เคยมีคนสงสัยว่า ทำแบบนี้แล้วพี่หน่อยได้อะไร รวยจากการเปิดพิพิธภัณฑ์หรือเปล่า ถึงกล้าเอาเงินตัวเองทุ่มลงไปทุกเดือนให้กลายเป็นสมบัติของชาติ คุณหน่อย บอกว่า เป็นความสุขทางใจ รวยกว่าเงิน เราก็นับถือ เราก็ทำ แต่เราไม่ได้ทุ่มเท แต่เรารักองค์พ่อ เรามีพลัง เรามีความสุขเพราะพระองค์ เรายืนอยู่ได้ทุกวันนี้ด้วยแรงศรัทธาของเรามากกว่า พ่อสามารถช่วยคนที่ท้อแท้ให้ยืนอยู่ให้สู้ต่อได้ เหมือนที่พ่อชี้ว่าข้างหน้ายังมีหนทาง ยังมีแสงสว่าง ถึงความสำเร็จจะไม่ใช่ใกล้ๆ เพราะทุกคนเกิดมาก็ต่างเพศ ต่างฐานะ ทุกคนมีชะตากรรมหมด
สิ่งสำคัญคือความอดทน ขยันหมั่นเพียร สติมาปัญญาเกิด สิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวและผ่านพ้นอุปสรรคมาได้คือองค์พ่อ ไม่ได้มองว่าเป็นการเสียค่าใช้จ่าย แต่เป็นสิ่งที่อยากทำ อยากจะสู้ต่อจริงๆ ขณะที่ลูกๆ ก็ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่แม่ทำคืออะไร คนอื่นสร้างพระ สร้างโบสถ์ แต่แม่สร้างเทพ คือหน้าที่คุณแม่? แค่เห็นคนที่มาแล้วมาอีก รวยเงินก็ไม่สู้รวยจิตใจ ก็มีความสุขจริงๆ ถึงจะไม่กินก็ได้อิ่ม
@เล็งจัดแกลลอรี่ที่ กทม. ปีหน้า
ด้วยความไม่ชอบเที่ยวต่างประเทศ ทำให้ คุณหน่อยจะบินไปประเทศอินเดียที่จะมีงานพิฆเนศจตุรถีเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ปีที่ผ่านมาเราจัดงานจตุรถีแล้วโดนลอกเลียนแบบองค์พ่อของเราไปไว้ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งได้พูดคุยกันแล้วว่ายูรู้มั้ยว่าเป็นลิขสิทธิ์ของเรา เขาบอกไม่รู้ มีอะไรมั้ย ทางผู้บริหารฯ เลยบอกว่าไม่เป็นไรเผยแผ่กันไป ก็คิดว่าปีหน้างานพิธีคเณศจตุรถี ทางคเณชาฯ จะจัดพิธียิ่งใหญ่แล้วจะนำพาพวกเราไปเยี่ยมคนที่นั่นว่าของจริงคือเรา ประเทศไทยก็มีดีเหมือนกัน
ในช่วงวันที่ 11-29 เมษายน 2561 จะมีจัดแกลลอรี่ในกรุงเทพฯ เนื่องด้วยเห็นว่าคนกรุงเทพฯ บางครั้งไม่มีเวลา ก็อยากจะเอาบารมีพ่อมาตั้งโชว์ตั้งแสดงที่โรงแรมริเวอร์ซิตี้ให้คนได้เข้าชม แล้วก็จะมีกิจกรรมต่างๆ แต่ถ้ามีเปลี่ยนแปลงอะไรจะแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน แต่ก็ตั้งใจทำและงานนี้ก็จะมีการวาดภาพประกวดช่วยทางด้านการศึกษาด้วย ใครอยากจะประมูลของเด็กไปเพื่อช่วยการศึกษา ก็พร้อมจะมอบให้ อันไหนที่ยังต้องอยู่แกลลอรี่ก็จะตั้งโชว์ไว้ให้ชื่นชมกันต่อไป
@เส้นบางๆ "ศรัทธา" และ "งมงาย"
"บางทีคำว่าศรัทธาและงมงายก็เป็นเส้นบางๆ ที่พูดยาก ถ้าไม่ได้สัมผัสกับตัวเอง คุณจะไม่รู้หรอกว่าสิ่งนี้มันเป็นยังไง ตรงนี้หนีไม่พ้นจริงๆ กับเรื่องตรงนั้น คนที่คอเดียวกัน สายเดียวกัน เจอกันจะโอบกอดกันแล้วจะพูดคำนึงทุกครั้งที่จัดทำพิธีคือ ขอบคุณมากๆ ที่ทำสิ่งนี้ให้หนู.. ขอบคุณมากนะครับที่ทำสิ่งนี้ให้ผม.. ตกลงคเณชาฯ คือของพวกคุณใช่มั้ยคะ โอเคไม่เป็นไร นี่ไงมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกว่า ฉันได้ทำสิ่งนี้ให้คนที่หมดพลังท้อถอยให้กลับมายืนสู้ต่อเพื่อประสบความสำเร็จ แล้วเขาก็บอกว่าถ้าเขาสมหวัง เขาจะกลับมาช่วยคเณชา แค่นั้นพี่หน่อยก็ดีใจแล้ว พ่อยังยืนอยู่ตรงนี้นะ"
คุณหน่อย เล่าเสริมว่า บางทีชีวิตคนเราไม่ได้เต็ม 100 หรอก เพราะเว่อร์เกินไป ส่วนตัวขอแค่ 90 ก็พอกับความสุขที่มี ส่วนความทุกข์ก็ไม่ยึดติด ถึงเวลานอนก็นอน ไม่เอามาใส่สมอง
สำหรับใครที่สนใจเข้าชม คเณชาแกลลอรี่สามารถเดินทางไปชมได้ที่ คเณชาแกลลอรี่หัวหิน 15/1 ถนนชมสินธุ์ ซอยหัวหิน 55 ต.หัวหิว อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77110 สอบถามรายละเอียดได้ที่ 032 512 645,098 525 2564 FB:Khanesha Gallery Huahin