กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ดร.สุวัฒน์ วาณีสุบุตร กรรมการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ได้ให้การต้อนรับ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมโครงการศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ และได้ร่วมหารือเส้นทางการจราจรภายในศูนย์ราชการฯ เพื่อรองรับโครงการบางกอก บีอาร์ที สายหมอชิต — ศูนย์ราชการ รวมทั้งร่วมกันแก้ไขปัญหาจราจรเพื่อรองรับศูนย์ราชการ ฯ
ดร.สุวัฒน์ วาณีสุบุตร กรรมการ ธพส. ได้เปิดเผยว่า “โครงการการรถด่วนพิเศษBRT หากเกิดขึ้น จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะในโครงการมีประชาชนผู้มาติดต่อ และข้าราชการเข้าทำงานกว่า 30,000 คนต่อวัน ซึ่งจะทำให้เกิดการจราจรที่คับคั่ง โครงการ BRT จะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรได้ ซึ่งจุดจอดรถอาจจะใช้ร่วมกับ Terminal ที่เตรียมไว้รองรับรถ Shuttle Bus และโครงข่ายภายในโครงการ ซึ่งถือว่าโครงการมีความพร้อมและความเหมาะสมในการดำเนินการอย่างยิ่ง”
นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังได้กล่าวย้ำว่า “ งบประมาณ ที่ใช้ในการดำเนินงาน BRT มูลค่า 1,670 ล้านบาท ได้ผ่านการอนุมัติจากสภา กทม. แล้ว และได้ตั้งงบลงทุนเบื้องต้นในปี งบประมาณ 2551 ไว้แล้วซึ่งโครงการบางกอก บีอาร์ที สายหมอชิต-ศูนย์ราชการ มีทั้งหมด 8 สถานี ระยะทางรวม 13.5 กิโลเมตร และจะจอดที่ศูนย์ราชการทั้งหมด 3 สถานี คือ สถานีศาลปกครอง สถานีศูนย์ราชการบริเวณหน้าอาคาร B และ สถานีกรมการกลสุล ซึ่งอยู่ติดกับอาคาร A เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มาทำงานและติดต่อราชการ ในศูนย์ราชการแห่งนี้”
นอกจากนี้ แนวทางการแก้ปัญหาการจราจรที่โครงการศูนย์ราชการเตรียมไว้รองรับการขยายตัวด้านจราจรในอนาคตนั้น มีโครงการที่อยู่ในความดูแลของ ธพส. คือ การก่อสร้างและปรับปรุงโครงข่ายถนนภายในพื้นที่ศูนย์ราชการฯ หน่วยงานข้างเคียง และการเชื่อมต่อกับโครงข่ายถนนโดยรอบ การก่อสร้างปรับปรุงโครงข่ายถนนรอบพื้นที่ศูนย์ราชการฯ และการจัดระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งธพส. คาดว่าจะสามารถประกวดราคาในส่วนของสัญญา 9 ซึ่งเป็นสัญญาโครงข่ายการจราจร ได้ภายในปีนี้ สำหรับโครงการในความดูแลของ กทม. อาทิ การสร้างถนนเชื่อมถนนกำแพงเพชร 6 (Local Road) และ ถนนวิภาวดี กับซอยแจ้งวัฒนะ 5 โครงการขยายถนนประชาชื่นเลียบคลองส่วย และปรับปรุงกายภาพแยกถนนแจ้งวัฒนะ โครงการจัดการจราจรบริเวณทางแยกบนถนนแจ้งวัฒนะช่วงหลักสี่-ประชาชื่น นอกจากนี้ยังช่วยผลักดันโครงการในแผนแม่บทด้านการจราจร และขนส่งในพื้นที่ปิดล้อมของ กทม. ได้แก่ โครงการถนนสายรองแนวตะวันออก-ตะวันตก โครงการถนนสายรองแนวเหนือ-ใต้ (ซอยแจ้งวัฒนะ 14 — สรงประภา) อีกด้วย