กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ผู้ให้บริการไปรษณีย์และโลจิสติกส์ครบวงจรที่เติบโตและอยู่เคียงข้างสังคมไทยมาโดยตลอด มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านการสร้างสรรค์ชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน พร้อมๆ ไปกับการเสริมสร้างคนคู่คุณธรรม จึงได้ริเริ่มโครงการ "ไปรษณีย์ไทย...เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง" โปรเจกต์ใหญ่รับปีใหม่ 2561 เพื่อปลุกกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยให้คึกคักยิ่งขึ้น
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเติบโตของผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะผู้ประกอบการท้องถิ่น เพราะถือเป็นตัวแปรที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมประเทศ จึงต้องคิดค้นหาช่องทางลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ กระจายนวัตกรรมเทคโนโลยี องค์ความรู้ และทักษะไปยังชุมชนในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ
"รายได้หลักของชาวบ้านในชุมชนต้องมาจากวิถีการใช้ชีวิตปกติ ส่วนรายได้จากการพัฒนาชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวนั้นต้องมองเป็นรายได้เสริม ฉะนั้นแล้วการที่จะเข้าไปช่วยพัฒนาชุมชนท้องถิ่น สิ่งแรกที่สำคัญที่สุด คือ ต้องเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของคนในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางพัฒนาที่สอดคล้องกับภูมิสังคมของท้องถิ่น ซึ่งไปรษณีย์ไทยมีเครือข่ายที่พร้อมเข้าถึงคนในพื้นที่อย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว ทั้งหมดนี้คือที่มาและแนวคิดหลักของโครงการ ไปรษณีย์ไทย...เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ที่ยึดศาสตร์พระราชา "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" มาใช้ในการทำงาน"
ขั้นตอนการทำงานจึงเริ่มต้นที่ การเข้าถึงแต่ละพื้นที่เพื่อเข้าใจอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชน จากนั้นจึงนำมาต่อยอดด้วยกระบวนการเชิงสร้างสรรค์ เพื่อสร้างรายได้เป็นมูลค่าที่จับต้องได้ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านในท้องถิ่น ซึ่งเป็นหลักการพัฒนาที่จะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของทั้งเศรษฐกิจ สังคม และประเทศ โดยในส่วนของการดำเนินการ จะเน้นการใช้หลักความร่วมมือของเครือข่าย "บ้าน วัด โรงเรียน" ในพื้นที่ ผ่านการมี "ที่ทำการไปรษณีย์" เป็นศูนย์กลางที่บูรณาการกับเครือข่ายชาวบ้าน ผู้ประกอบการในท้องถิ่น และหน่วยงานทุกภาคส่วน ผลักดันไปสู่เป้าหมายสำคัญของโครงการ คือ การสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนให้เติบโตไปพร้อมกับการเสริมสร้างคนคู่คุณธรรม
"โมเดลของไปรษณีย์ไทย...เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง จะทำให้ที่ทำการไปรษณีย์ในพื้นที่กลายเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ อบรมผู้ประกอบการ และศูนย์กลางการจำหน่ายสินค้าชุมชน ในขณะที่บ้านและชุมชน จะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ทางไปรษณีย์ไทยเน้นอบรมให้ความรู้ด้านการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ อาทิ การให้ความรู้ด้านออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน ช่องทางการซื้อขายออนไลน์ ฯลฯ ส่วน วัด จะเป็นแหล่งปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และจิตสำนึกที่ดีแก่คนในพื้นที่ควบคู่กันไป ซึ่งเป็นการส่งเสริม ยกระดับศักยภาพการใช้ชีวิตทั้งกายและใจ"
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยได้เริ่มนำร่องโครงการ "ไปรษณีย์ไทย... เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง" ณ จังหวัดน่าน ด้วยการพัฒนาอย่างรอบด้านใน 3 มิติหลัก ได้แก่
1) การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ผ่านการร่วมมือกับเครือข่ายส่วนราชการจังหวัดน่าน อบรมผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชนกว่า 37 กลุ่มในเรื่องการขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ การหุ้มห่อ ขนส่งสินค้าที่เหมาะสม พร้อมพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับร้านค้าชุมชน ระบบงานร้านค้าปลีก (Point of Sale : POS) ใช้งานที่จ.น่านเป็นแห่งแรก 20 จุด มีเป้าหมายจำนวน200 จุดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนภายในปี 2560 และจะขยายผลไปยังภูมิภาคอื่นๆ 10,000 จุด ภายในปี 2561 ซึ่งจะมีสินค้าเข้าระบบจำนวน 50,000 รายการ ตลอดจนคัดเลือกสินค้าที่ได้มาตรฐานเพื่อจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.thailandpostmart.com สำหรับโครงการดิจิทัลชุมชนด้าน e – Commerce นี้ ทำให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ทำให้เกษตรกรมีรายได้โดยใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ตามนโยบายของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
2) การส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ด้วยการจัดประกวดภาพถ่าย "หน้าต่างน่าน" และจัดทำ "ตู้นี้...ที่ริมน่าน" เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดน่าน
3) การส่งเสริมการเรียนรู้ จัดกิจกรรม "กาดละอ่อน ณ ข่วงเมือง" ตลาดสำหรับพ่อค้าแม่ค้าน้อยที่ผ่านการอบรมพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นจิ๋วกว่า 130 คน อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทยมีแผนจะขยายโมเดล "ไปรษณีย์ไทย...เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง" ไปยังจังหวัดที่มีความพร้อม ในปี 2561 โดยจะเริ่มทำการคัดเลือกจากจังหวัดในโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข 12เขต 14 พื้นที่
นางสาวศิรินันท์ สารฆณฐี ผู้จัดการวิสาหกิจชุมชนชีววิถี ต.น้ำเกี๋ยน กล่าวว่า จากการเข้าร่วมอบรมเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการในชุมชนกับโครงการ "ไปรษณีย์ไทย...เพื่อแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง" นั้น ทำให้สมาชิกวิสาหกิจชุมชนชีววิถี ต.น้ำเกี๋ยน ได้รับความรู้ด้านการทำการตลาดออนไลน์แบบอีคอมเมิร์ซ อาทิ การออกแบบเฟสบุ๊คแฟนเพจ การนำเสนอสินค้าให้เป็นที่สนใจของกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ สินค้าของวิสาหกิจชุมชนฯ เช่น สบู่น้ำซาวข้าว เกลือขัดผิวสูตรขมิ้นชันผสมน้ำผึ้ง น้ำผึ้งแท้บ้านป่าสัก น้ำผึ้งดอกสาบเสือ ฯลฯ ได้รับการคัดเลือกเพื่อจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ของทางไปรษณีย์ไทย (www.thailandpostmart.com) ซึ่งถือเป็นการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าของชุมชนและสร้างการรับรู้ในวงกว้าง พร้อมกันนี้ ยังได้รับการสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายในการขนส่งแบบโลจิสโพสต์ (Logispost) ในราคาที่ต่ำลง ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนชีววิถีฯ มีจุดเริ่มต้นมาจากความตั้งใจในการลดค่าใช้จ่ายและสารเคมีต่างๆ ในชุมชน ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใช้เองในครัวเรือน โดยอาศัยวัตถุดิบธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น อย่างใบหมี่ ดอกอัญชัน มะเฟือง ฯลฯ ผนวกรวมกับภูมิปัญญาดั้งเดิม และหลักความรู้ทางวิชาการ ก่อนจะขยายสู่สินค้าโอทอปของชุมชนอย่างในปัจจุบัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandpost.co.th หรือ THP call center 1545