กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการสั่งงานผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ถึงผู้บริหารและเพื่อนข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าในช่วงวันหยุดนี้ ผมขอมีส่วนร่วมในการคิดแนวทางการทำงานเพื่อดูแลช่วยเหลือเกษตรกรไทยของเรา ดังนี้ ๑.ในช่วงนี้นอกจากสินค้าผลผลิตทางการเกษตรที่กำลังเป็นที่สนใจของคนทั่วประเทศ เช่น ยางพารา ข้าว พืชเกษตรและผลไม้ต่างๆ แล้ว สิ่งที่เป็นรากฐานสำคัญของการเกษตรบ้านเราคือ การจัดหาหรือพัฒนาแหล่งน้ำหรือการหาน้ำให้มีประจำพื้นที่แก่เกษตรกร คนไทยเราผูกพันกับแหล่งน้ำมาโดยตลอด จนมีคำกล่าวที่ว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าวจึงขอให้ท่านอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ได้พิจารณารวบรวมข้อมูลแหล่งน้ำขนาดเล็กเช่น บ่อหรือสระที่กรมฯได้ไปดำเนินการไว้ในพื้นที่ต่างๆว่า ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัยของ ปชช.มากน้อยเพียงใด ที่ไหนบ้างโดยแยกเป็นรายจังหวัดหรือรายภาคคร่าวๆก็ได้ เพื่อให้เห็นภาพว่าพื้นที่ใดมีแหล่งน้ำเพียงพอแล้วหรือไม่อย่างไป ขณะนี้ กษ.และ กยท.มีนโยบายให้ชาวสวนยางลดพื้นที่ปลูกยางหรือปลูกพืชอื่นๆแซมสวนยางหรือปรับเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่นๆ ซึ่งเป็นนโยบายที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการไว้แล้วผมเห็นว่า ถ้าในพื้นที่สวนยางหรือใกล้เคียงนั้น หากไม่มีแหล่งน้ำแล้ว ชาวสวนก็ไม่ทราบจะไปปลูกพืชอะไรหรือทำอะไรที่ดีกว่าปลูกยาง แต่ถ้าเราสามารถหาแหล่งน้ำหรือหาทางพัฒนาพื้นที่ให้มีแหล่งน้ำไว้ด้วยก็จะทำให้เกษตรกรมีทางออกหรือทางเลือกในการทำการเกษตรที่ผสมผสาน หลากหลายได้มากขึ้นกว่าเดิม และจะช่วยให้นโยบายลดพื้นที่ปลูกยางพาราประสบความสำเร็จมากขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องทำให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วตามสภาพของพื้นที่และเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวย เพราะจะเป็นการช่วยถ่ายทอดตัวอย่างที่ดีและสร้างความมั่นใจให้พี่น้องเกษตรกรของเรา
๒.ดังนั้น ถ้าพวกเราท่านใดที่มีความรู้หรือเชี่ยวชาญการพัฒนาจัดหาแหล่งน้ำในสวนยางหรือพื้นที่ใกล้เคียงได้ก็ขอให้ช่วยเสนอแนะกรมพัฒนาที่ดินหรือพวกเราที่อยู่ในพื้นที่ด้วย หรือท่านใดมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาหาแหล่งน้ำตามพระราชดำริของ ร.๙ เช่น การทำหลุมขนมครกหรือแก้มลิงเก็บน้ำ/การชักน้ำลงคลองไส้ไก่หรือการสร้างเหมืองฝายชะลอน้ำหรือเก็บน้ำโดยใช้วัสดุธรรมชาติในพื้นที่มาทำแหล่งน้ำดังกล่าวโดยให้ชาวบ้านหรือชาวสวนยางได้ออกแรงงานแล้วส่วนราชการซื้อวัสดุให้ชาวบ้านมาร่วมกันทำก็ได้ หรือในบางแห่งอาจร่วมกันกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำธนาคารน้ำใต้ดินได้ ผมทราบว่า เรื่องการพัฒนาแหล่งน้ำ ท่าน รมช.วิวัฒน์ฯมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ก็ขอให้ท่านอธิบดีกรม พด.และกรม ชป.รวมทั้งพวกเราได้ปรึกษาท่านและร่วมกันดำเนินการทันทีได้เลยครับ๓.สำหรับงบประมาณดำเนินการนั้น หากมีงบประมาณประจำปีตามแผนงานอยู่แล้ว ก็ให้รีบดำเนินการหรือขอรับการสนับสนุนจากงบประมาณพัฒนาจังหวัดหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือต่อยอดขยายผลโครงการ ๙๑๐๑ หรือประสานงานภาคธุรกิจเอกชนในพื้นที่ที่มีงบประมาณดูแลสังคม(CSR)หรือทำโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณกลางสำรองจ่ายมาที่กระทรวงก็ได้ ๔.ปัจจุบัน มีเกษตรกรบางพื้นที่ได้รวมตัวกันในรูปกลุ่มเกษตรกรตามลักษณะอาชีพหรือจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรหรือการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนอย่างได้ผลดีซึ่งกลุ่มเกษตรกรเหล่านี้จะมีความเข้มแข็งกว่าเกษตรกรรายบุคคลทั่วไป บางกลุ่มสามารถบริหารงานดูแลสมาชิกในกลุ่มได้ดี มีการใช้ความรู้ทางด้านการทำธุรกิจหรือเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการพัฒนาอาชีพการเกษตร ทำให้มีรายได้ครัวเรือนมากขึ้นเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายหรือค่าครองชีพ จึงขอให้พวกเราที่อยู่ในพื้นที่ได้ช่วยสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรเหล่านั้น ให้เป็นต้นแบบหรือขอมาเป็นวิทยากรขยายผลการรวมกลุ่มในพื้นที่ให้มากๆขึ้นด้วย ซึ่งกิจการในแนวสหกรณ์ก็เป็นแนวพระราชดำริประการหนึ่งของในหลวง ร.๙ ต่อไป กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของเรา จะพยายามจัดสรรงบประมาณให้เกษตรกรที่สามารถรวมตัวเป็นกลุ่มที่เข้มแข็งแล้วได้มีงบประมาณหรือปัจจัยการผลิตด้านการเกษตรประจำกลุ่มเป็นกรณีพิเศษด้วยจึงขอให้ท่าน ปลัด กษ.ได้มอบหมายท่านรองปลัดกระทรวงและอธิบดีที่เกี่ยวข้องได้เร่งจัดทำข้อมูล (big data) กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวไว้ให้เป็นระบบ เพื่อให้เชื่อมโยงกับข้อมูลอื่นๆตามกรม กอง ของกษ.หรือให้กระทรวงอื่นๆนำไปจัดทำโครงการประสานเชื่อมโยงเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้กว้างขวางมากขึ้นด้วย และ๕.พวกเราอย่าลืมนะครับ ต่อไปนี้ชาวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัด/อำเภอและตำบลหมู่บ้านจะต้องร่วมกันทำงานในพื้นที่เดียวกันตามความเชี่ยวชาญของแต่ละท่านไม่แยกส่วนไม่แยกกรมกองแต่ทุกคนจะมีเป้าหมายเดียวกันคือการทำงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรแบบครบวงจร อนึ่ง หากพวกเราโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศมีปัญหาอุปสรรคในการทำงานหรือมีข้อเสนอแนะหรือมีโครงการที่ประสบผลสำเร็จในการดำเนินงานแล้วก็ขอให้รายงานมายัง กษ.ด้วยเพื่อส่วนกลางจะได้นำมาขยายผลหรือปรับปรุงแก้ไขให้งานกษ.ของเราเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรให้มากที่สุดครับ.