กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) ผู้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว "SNAILWHITE" ภายใต้แบรนด์ "NAMU LIFE" เผยกระแสตอบรับจากนักลงทุนดีเยี่ยมหลังจากประกาศราคาขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกหรือไอพีโอ ด้วยปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างรอบด้านทั้งความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ความชัดเจนของแนวทางบริหารธุรกิจของบริษัทฯ และเทรนด์การเติบโตของธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั้งในไทยและต่างประเทศ
ดู เดย์ ดรีม กำหนดราคาหุ้นไอพีโอที่ 53 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดจากช่วงราคาเสนอขาย และเปิดให้นักลงทุนทั่วไปจองซื้อระหว่างวันที่ 14 – 15 และ 18 ธันวาคม 2560 และได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุนสถาบันที่มีการจองซื้อสูงกว่าจำนวนที่เสนอขายถึง 18 เท่า โดยกำหนดเปิดซื้อขายหุ้นวันแรก ในวันที่26 ธันวาคม 2560
นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของดู เดย์ ดรีมและตอบรับการจองซื้อหุ้นไอพีโอเป็นอย่างดี เรามั่นใจว่าปัจจัยสนับสนุนทั้งในและนอกบริษัท ฯ หลักๆ 3 ด้านจะช่วยผลักดันการเติบโตได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ได้แก่ รายได้จากการขายสินค้าในต่างประเทศที่มีการเติบโตออย่างมีนัยสำคัญ การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าใหม่คือ คิง เพาเวอร์ และประการสุดท้ายคือ การออกบรรจุภัณฑ์ใหม่ในแบบซองที่สนองความต้องการลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้ดี ทำให้เราขยายตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
นายปิยวัชรกล่าวเสริมว่า ในด้านตลาดต่างประเทศ หลังจากที่บริษัทฯเริ่มเปิดตลาดจีนเป็นครั้งแรกในปี 2559 สามารถทำรายได้ถึงประมาณ 140 ล้านบาท และเริ่มมีการเข้าไปทำการตลาดมากขึ้นในปีนี้จนทำให้รายได้จากการขายเติบโตสูงขึ้นถึง 3 เท่าเป็น 440 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560
"ประเทศจีนนับเป็นตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีมูลค่าสูงมากถึง 1 ล้านล้านบาทและยังมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ ยังมีช่องทางในการเติบโตต่อไปได้ในอนาคต นอกจากนี้เรากำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์ไปสู่ประเทศใหม่ๆ ในเอเชียอีกด้วย เช่น ตลาด CLMV" นายปิยวัชรกล่าวเสริม
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าที่สำคัญซึ่งจะผลักดันการเติบโตของรายได้เป็นอย่างมากคือ ร้านค้าปลอดภาษีคิง เพาเวอร์ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาที่สาขาศรีวารีเป็นแห่งแรกและได้เริ่มขยายไปยังสาขาอื่นได้แก่สาขาสุวรรณภูมิ โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของรายได้จากการขายในประเทศอีกประการหนึ่งคือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ขนาดใหม่แบบซอง (Sachet) โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯ ได้ดำเนินการขายผลิตภัณฑ์ครีมทาหน้าในรูปแบบซอง ทำให้เจาะกลุ่มลูกค้าในร้านสะดวกซื้อและร้านค้ารายย่อยได้กว้างขวางยิ่งขึ้น รวมทั้งบริษัทฯ มีแผนที่จะนำเสนอสินค้าไปสู่ช่องทางจำหน่ายอื่นๆมากยิ่งขึ้น
"จากที่ได้เริ่มดำเนินการผลิตที่โรงงานใหม่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 เราเชื่อมั่นว่า ณ ตอนนี้ ฝ่ายผลิตมีความพร้อม มีความรู้ความเข้าใจในระบบและเครื่องจักรที่ทันสมัยของโรงงานใหม่อย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยให้เราบริหารจัดการต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น ประกอบกับการนำระบบ SAP เข้ามาใช้ ทำให้เราบริหารงานและวางกลยุทธ์ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ นำไปสู่การจัดการต้นทุนที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ปีนี้เราใช้งบประมาณในการทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ถึง 8 ตัวซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถสร้างการตระหนักรู้และความเชื่อมั่นในตัวสินค้าในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในระดับที่น่าพึงพอใจ ทำให้ในปีต่อไปเราน่าจะสามารถพิจารณาปรับลดงบประมาณการตลาดลงได้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยส่งเสริมการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิในอนาคต" นายปิยวัชร กล่าวปิดท้าย
บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) จะเริ่มซื้อขายหุ้นภายใต้หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค ของใช้ส่วนตัว และเวชภัณฑ์ ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ "DDD" เป็นครั้งแรกในวันที่ 26 ธันวาคม 2560 นักลงทุนที่สนใจที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนแบรนด์ไทยให้ผงาดบนเวทีอุตสาหกรรมความงามในระดับภูมิภาคเอเชีย กับเป้าหมายการเป็นท็อป 3 บริษัทด้านความงามของเอเชีย สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dodaydream.com/th/investor-relations/ir-home และชมวีดีโอสั้นเกี่ยวกับข้อได้เปรียบทางการแข่งขันและศักยภาพการเติบโตของบริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) ได้ที่ http://www.dodaydream.com
คำเตือน
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน