กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายให้แก่ กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีและสหกรณ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแล ว่า ระบบสหกรณ์มีความสำคัญจึงต้องมีการปฏิรูปการทำงาน โดยต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน ทั้ง 10 หน่วยงาน ให้มีแผนงานที่ตรงกัน ซึ่งระบบสหกรณ์มีสมาชิกกว่า 11.4 ล้านคนทั่วประเทศ จะมีการพัฒนาอย่างไร จึงได้ให้แนวทาง 4T คือ 1. Target group กำหนดกลุ่มเป้าหมาย 2. Target area กำหนดพื้นที่ 3. Timing กำหนดเวลา และ 4. Tecnology เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการทำงานร่วมกัน ขณะเดียวกันให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งดำเนินการใน 3 พื้นที่ก่อน ได้แก่ ลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มน้ำโสมง และลุ่มน้ำน่าน ต้องพัฒนาให้เข้มแข็งและเป็นต้นแบบ ทั้งนี้ ต้องให้สมาชิกสหกรณ์ปรับตัวเข้าสู่ระบบการขายแบบออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดออนไลน์ของอาลีบาบา ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย จะเป็นช่องทางที่สามารถทำรายได้ให้สมาชิกสหกรณ์ได้
สำหรับกรมตรวจบัญชีและสหกรณ์ ที่มีภารกิจหลักคือการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร รวมทั้ง การสอนจัดทำบัญชีครัวเรือน บัญชีต้นทุนอาชีพ ให้ความรู้ คำปรึกษาแนะนำด้านการเงิน การบัญชีและบริหารความเสี่ยง ปัจจุบันมีสหกรณ์ที่มีระบบบัญชีที่ดีและมีมาตรฐาน 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่อีก 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ยังทำไม่ได้ จึงต้องมีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้ เข้าไปสนับสนุน เพื่อยกระดับทั้งระบบ โดยต้องไปจำแนกประเภทและจัดลำดับชั้นของสหกรณ์ เพราะเชื่อว่ามีสหกรณ์ในระดับ 5 ดาวอยู่มาก จึงต้องมีเครื่องมือวัดที่เชื่อถือได้ เพื่อค้นหาจุดแข็งและกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการพัฒนาต่อไป