กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 18 ธันวาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,252.30-1,257.34 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,400 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,400 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 19,500 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,440 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.42 น. ของวันที่ 18/12/60)
แนวโน้มวันที่ 19 ธันวาคม 2560
การคาดการณ์ว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐจะผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี หลังสมาชิกพรรครีพับลิกันมีความเชื่อมั่นว่าสภาคองเกรสของสหรัฐจะอนุมัติร่างกฎหมายภาษีในสัปดาห์นี้ โดยวุฒิสภาอาจจะโหวตร่างกฎหมายนี้ในวันอังคาร และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐตั้งเป้าที่จะลงนามในร่างกฎหมายนี้ก่อนสุดสัปดาห์นี้ แม้ว่ากระตุ้นแรงซื้อเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทซึ่งพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ดอลลาร์ขยับขึ้นได้เพียงเล็กน้อย ทำให้ราคาทองคำยังทรงตัวรักษาระดับไว้ได้ เนื่องจากนักลงทุนจะรอดูสถานการณ์ต่อไปจนกว่าร่างกฎหมายนี้จะออกมาเป็นกฎหมาย อย่างไรก็ตามราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในข้อตกลงขายคืนพันธบัตรหรือ reverse repos โดยปรับขึ้น 0.05% สำหรับข้อตกลงระยะ 14 วัน หลังจากธนาคารกลางจีนเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินไปเมื่อวันพฤหัสบดี 14 ธ.ค. ขณะที่บริษัทซีเอ็มอี กรุ๊ป อิงค์เริ่มเปิดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าบิทคอยน์ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับในระดับปานกลาง ทางด้านบริษัทซีบีโออี โกลบัล มาร์เก็ตส์ (Cboe) ซึ่งเป็นตลาดตราสารอนุพันธ์ในชิคาโกได้เริ่มเปิดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าบิทคอยน์ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 10 ธ.ค. การเริ่มเปิดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าบิทคอยน์ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้บิทคอยน์ กลายเป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย และสิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนสถาบันรายใหญ่เข้ามาลงทุนในบิทคอยน์ด้วย ซึ่งสร้างความกังวลว่าจะมีเม็ดเงินในการลงทุนทองคำบางส่วนโยกเข้าสู่การลงทุนในบิทคอยน์ อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามความสัมพันธ์ของราคาบิทคอยน์และราคาทองคำต่อไป เนื่องจากปัจจุบันความสัมพันธ์ของทั้งสองตลาดยังคงไม่ชัดเจน ทั้งนี้ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,260-1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไร
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ให้รอเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,249-1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้าน และรักษาระดับยืนเหนือกรอบราคาได้ แนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ให้ถือต่อไป ซึ่งราคาทองคำน่าจะสามารถขยับตัวขึ้นต่อไปได้ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถทำการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเช่นเดิม
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,243 (19,150บาท) 1,236 (19,050บาท) 1,227 (18,900บาท)
แนวต้าน 1,260 (19,450บาท) 1,271 (19,600บาท) 1,282 (19,800บาท)
GOLD FUTURES (GFZ17)
แนวรับ 1,243 (19,280บาท) 1,236 (19,180บาท) 1,227 (19,040บาท)
แนวต้าน 1,260 (19,550บาท) 1,271 (19,720บาท) 1,282 (19,890บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999