กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--ปตท.
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยน้ำมันรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกชนิด ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 0.97 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 63.4 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 0.19 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 57.21 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เพิ่มขึ้น 0.95 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 61.24 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในส่วนของราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เพิ่มขึ้น 0.93 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 75.64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 1.63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 75.11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
· วันที่ 11 ธ.ค. 60 บริษัท INEOS ประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) การส่งมอบน้ำมันดิบ Forties (ปริมาณสูบถ่าย 450,000 บาร์เรลต่อวัน) เป็นครั้งแรกในรอบ 29 ปี หลังตรวจพบรอยรั่วเมื่อ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา ระบบท่อดังกล่าวเป็นท่อขนส่งน้ำมันดิบขนาดใหญ่สุดของสหราชอาณาจักร โดยใช้ขนส่งน้ำมันดิบจากแหล่ง Buzzardและ Forties ในทะเลเหนือ ซึ่งเป็นน้ำมันดิบหลักที่ใช้คำนวณราคาน้ำมันดิบ Brent
· Baker Hughes Inc. รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะ (Oil Rig Count) ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 15 ธ.ค. 60 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 4 แท่น อยู่ที่ 747 แท่น ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์
· Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ธ.ค. 60 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 5.1 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 443.0 ล้านบาร์เรล ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 สู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ต.ค. 58
· International Energy Agency (IEA) รายงานอัตราความร่วมมือลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของ OPEC หรือ Compliance Rate เดือน พ.ย.60 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 29% อยู่ที่ระดับ 116% อย่างไรก็ดีปริมาณการผลิตของ Non-OPEC ลดลงจากเดือนก่อน 15% อยู่ที่ระดับ 96% เนื่องจากคาซัคสถานผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
· Commodity Futures Trading Commission (CFTC) รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า NYMEX ที่นิวยอร์กและ ICE ที่ลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 ธ.ค. 60 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับลดสถานะถือครองสุทธิ (Net Long Position) ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 7,542 สัญญา มาอยู่ที่ 435,200สัญญา
· รายงานฉบับเดือน ธ.ค. 60 ของ EIA ปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปี พ.ศ. 2561 โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 780,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 10.02 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น จากปีก่อน 720,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 9.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดวันศุกร์ผันผวน หลัง EIA รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ธ.ค. 60 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึง 16% จากช่วงกลางปี พ.ศ. 2560 สู่ระดับ 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ จำนวนแท่นผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 287 แท่น อยู่ที่ 747 แท่น ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นใกล้เคียงกับรัสเซียที่ 11 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ ซาอุดิอาระเบียที่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตามตลาดน้ำมันในปัจจุบันยังตึงตัวจากภาวะอุปทานน้ำมันดิบจากทะเลเหนือชะงักงัน เพราะระบบท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forties (ปริมาณสูบถ่าย 450,000 บาร์เรลต่อวัน) หยุดดำเนินการ ล่าสุดทีมวิศวกรของบริษัทINEOS เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุและอยู่ระหว่างการคัดเลือกวิธีการซ่อมแซมที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ขณะที่ทีม Operation เลื่อนระยะเวลาส่งมอบน้ำมันดิบแก่ลูกค้าที่มีกำหนดส่งมอบกลางเดือน ธ.ค. 60 ออกไปราว 2 สัปดาห์ ให้ติดตามความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านที่ทวีความตึงเครียดมากขึ้น หลังกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แสดงหลักฐานว่าขีปนาวุธที่กลุ่ม Houthi ยิงไปยังซาอุดิอาระเบียเดือนก่อนผลิตจากอิหร่าน ถือว่าทำผิดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะต้องตัดสินใจเกี่ยวกับการคว่ำบาตรอิหร่านกลางเดือน ม.ค. 61 สัปดาห์นี้คาดราคาน้ำมันดิบ Brent เคลื่อนไหวในกรอบ 62.5-66.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบNYMEX WTI อยู่ในกรอบ 55.0-58.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ Dubai จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 60.0-63.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซินสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้นจากผู้ค้าน้ำมันเบนซินในศรีลังกา และเวียดนามต้องจัดหาน้ำมันเบนซินจากตลาดจรทดแทนอุปทานจากอินเดียที่หยุดชะงักเพราะเหตุเพลิงไหม้ Fluid Catalytic cracking Unit หรือ FCCU (กำลังการผลิต 85,000 บาร์เรลต่อวัน) ของโรงกลั่นน้ำมัน Paradip (กำลังการกลั่น 300,000บาร์เรลต่อวัน) ที่ปิดดำเนินการวันที่ 12-14 ธ.ค. ที่ผ่านมา อีกทั้ง บริษัท Pakistan State Oil (PSO) ของปากีสถานออกประมูลซื้อน้ำมันเบนซิน 92 RON ปริมาณรวม935,000 บาร์เรลต่อวัน ส่งมอบครึ่งหลังของเดือน ม.ค. 61 ด้านปริมาณสำรอง International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ในสิงคโปร์สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 ธ.ค. 60 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.46 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 13.67 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ธ.ค. 60 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 5.7 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 226.5 ล้านบาร์เรล และอุปสงค์น้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ปี 2560 ทรงตัวจากปีก่อนหน้าที่ 9.32 ล้านบาร์เรล และ ในปี 2561จะเพิ่มขึ้นเพียง 20,000 บาร์เรลต่อวัน สัปดาห์นี้คาดราคาน้ำมันเบนซินเคลื่อนไหวในกรอบ 74.0-77.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซลสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้นจาก Arbitrage Ultra low Sulphur diesel (ULSD) จากเอเชียไปชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ เปิด โดยมีเรือขนส่งULSD ปริมาณ 596,000 บาร์เรล จากเกาหลีใต้มุ่งหน้าไปสหรัฐฯ และกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นคาดอุณหภูมิช่วงฤดูหนาวปีนี้มีแนวโน้มหนาวเย็นกว่าปกติจากปรากฏการณ์ La Nina ประกอบกับ ศรีลังกาเพิ่มปริมาณนำเข้าน้ำมันดีเซล เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองในประเทศก่อนปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในเดือน ม.ค. 61 ด้านปริมาณสำรอง IES รายงานปริมาณสำรอง Middle Distillates เชิงพาณิชย์ในสิงคโปร์สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 ธ.ค. 60 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 870,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 10.38 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์ และ EIA รายงานปริมาณสำรอง Distillates เชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 8 ธ.ค. 60 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 128.1 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม Energy Aspects รายงานโรงกลั่นน้ำมันของจีนกลั่นน้ำมันอยู่ที่ 12.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ย. 60 เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สัปดาห์นี้คาดราคาน้ำมันดีเซลเคลื่อนไหวในกรอบ 73.0-76.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล