กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--เอ็มที มัลติมีเดีย
DRT มั่นใจภาพรวมผลการดำเนินงานปี 60 เติบโตตามเป้าหมาย หลังประเมินตลาดวัสดุก่อสร้างช่วงโค้งสุดท้ายของปีมาแรง จากช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ที่มียอดขายพุ่งแรงและลูกค้าโครงการที่ขยายตัว ดันอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 80-85% จากกำลังผลิตทั้งหมด 9.82 แสนตันต่อปี
นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบาและบริการหลังการขายภายใต้แบรนด์ 'ตราเพชร' เปิดเผยว่า จากการประเมินบรรยากาศการซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ฟื้นตัวได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาที่เป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการขาย ทำให้การเลือกซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างมีความคึกคักขึ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/60 ของ DRT ขยายตัวได้ดี และช่วยสนับสนุนภาพรวมผลประกอบการในปี 2560 ที่เชื่อว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องทั้งในแง่ของรายได้และกำไร
ทั้งนี้ DRT ระบุว่า ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายที่ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผู้ประกอบการชั้นนำมีการลงทุนขยายสาขาใหม่ๆ เพิ่มเติมเพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวเพิ่มขึ้น เป็นผลให้สัดส่วนการขายสินค้าของ DRT ผ่านช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น โดยพบว่าช่วง 9 เดือนแรกปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 18% ของยอดขายรวม เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วนการขายอยู่ที่ประมาณ 13% ของยอดขายรวม ขณะเดียวกัน กลุ่มลูกค้าโครงการเป็นอีกช่องทางการจัดหน่ายที่เติบโตได้ดีในปีนี้เช่นกัน เนื่องจาก DRT มีความพร้อมของสินค้าที่ความหลากหลายและทีมช่างเพื่อให้บริการในการติดตั้ง ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าโครงการและได้รับความไว้วางใจจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่เลือกใช้สินค้าและบริการเพิ่มขึ้นเช่นกัน
"เราเชื่อว่าในปีนี้บริษัทฯ จะยังคงรักษาอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานทั้งในแง่ยอดขายและกำไรได้ดีเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าช่องทางร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่และลูกค้าโครงการที่ขยายตัวได้ดี จะส่งผลให้สามารถรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าเฉลี่ยทั้งปี 80-85% จากกำลังการผลิตรวม9.82 แสนตันต่อปี รวมถึงการบริหารจัดการด้านต้นทุนด้านการผลิตสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ทำให้มีต้นทุนการผลิตสินค้าต่อหน่วยต่ำ ตลอดจนการบริหาร Product Mix ที่ดี ทำให้เราสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีหรือเฉลี่ย 25-27%" นายสาธิต กล่าว