กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณในพื้นที่ลาดเชิงเขาและใกล้ทางน้ำไหลผ่าน บริเวณจังหวัดชุมพร ระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานีและนราธิวาส ให้เพิ่มความระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มและภัยที่เกิดจากฝนตกหนักและลมกระโชกแรง
พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าติดตามสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมการป้องกัน ช่วยเหลือ และอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศ
ในระยะนี้ พบว่า ร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคใต้และอ่าวไทยตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักมากในหลายพื้นที่ ดังนั้น จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยในบริเวณที่ลาดเชิงเขาและใกล้ทางน้ำไหลของจังหวัดชุมพร ระนอง พังงาสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานีและนราธิวาส ให้ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มและภัยที่อาจเกิดจากฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ส่วนชาวเรือขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากในทะเลมีคลื่นสูง 2- 4 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
สำหรับการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรงที่อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เบื้องต้น กรมปภ. ได้ประสานความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ศูนย์ ปภ. เขต และสำนักงาน.ปภ.จังหวัด ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันอาจเกิดจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และคลื่นลมแรงขึ้นในระยะนี้ 1-2 วันนี้ พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณพื้นที่
เสี่ยงภัยผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่นและหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้น พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงและกำชับมิสเตอร์เตือนภัย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบสิ่งผิดปกติ เช่นมีฝนตกหนักในพื้นที่ ให้รีบแจ้งเตือนประชาชนและอพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากดินโคลนถล่ม จัดเตรียมเครื่องจักรกล ยานพาหนะ
เรือท้องแบน และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน และขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้ติดตามการรายงานพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายจากการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวให้ตรวจสอบภาพอากาศ หากสังเกตพบสิ่งผิดปกติ ขอให้รีบขึ้นจากน้ำ หรือรีบเดินทางออกจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าวในทันที รวมทั้งให้ปฏิบัติตามคำเตือน ป้ายเตือน อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สุดท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ ได้ที่ สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานและให้การช่วยเหลือ โดยด่วนต่อไป