กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ได้ประชุมหารือความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนงานด้านวัฒนธรรมและติดตามการดำเนินงานของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด โดยมีผู้บริหารและข้าราชการของ วธ.ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคและผู้แทนจังหวัดต่างๆ เข้าร่วม ที่โรงแรมเจริญธานี จังหวัดขอนก่น เมื่อเร็วๆนี้ โดยที่ประชุมได้มอบหมาย สวจ.ในภาคอีสานไปบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการตามนโยบายพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้แต่ละจังหวัดไปค้นหาความโดดเด่นและเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สร้างรายได้สู่ชุมชนและประเทศ โดยในส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น สหรัฐอเมริกาได้ยกให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยติดอันดับ 1 ในแหล่งท่องเที่ยวปี 17 แห่ง ที่น่าเที่ยวที่สุดในโลกในปี 2017 โดยให้เหตุผลว่าภาคอีสานของไทยมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและธรรมชาติที่มีความโดดเด่นอย่างมาก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ที่ประชุมมอบหมายให้สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) บูรณาการความร่วมมือกับ สวจ.ในพื้นที่ภาคอีสาน จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับผ้าไหม การส่งเสริมให้นักออกแบบเครื่องแต่งกายนำผ้าไหมของภาคอีสานให้เป็นชุดแต่งกายที่ทันสมัย รวมทั้งเผยแพร่ไปยังต่างประเทศอีกด้วย เพื่อให้เครื่องแต่งกายชุดผ้าไหมมีความทันสมัยและได้รับความนิยมมากขึ้น อีกทั้งยังจะขยายความร่วมมือในการจัดโครงการ "ร้อยแก่นสารสินธุ์เมืองศิลป์ถิ่นผ้าไหม" ซึ่งจังหวัดขอนแก่นในฐานะหัวหน้ากลุ่มจังหวัด จะเป็นผู้ประสานงานการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้จังหวัดในพื้นที่ภาคอีสานเป็นเมืองแห่งผ้าไหมและเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศและระดับโลกในปี 2561
นายวีระ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมกำชับให้สวจ.ในพื้นที่ภาคอีสานเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรม "สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีธรรม พุทธศักราช 2561" ซึ่งจะมีการจัดงานตามวัดทั่วประเทศและในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียน รวมถึงวัดพุทธทั่วโลก โดยสวจ.ในพื้นที่ภาคอีสานจัดทำป้ายคัทเอาท์ตามสถานที่ต่างๆและประชาสัมพันธ์กิจกรรมดังกล่าวผ่านสื่อต่างๆให้กว้างขวางยิ่งขึ้น รวมทั้งขอให้รายงานสรุปจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละจังหวัดมายัง วธ.ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เพื่อ วธ.จะได้นำข้อมูลมาสรุปยอดในภาพรวม
นอกจากนี้ ขอให้ไปบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและเอกชนเพื่อจัดทำปฏิทินกิจกรรมเทศกาลประเพณีของจังหวัดต่างๆ เพื่อแพร่หลายประชาสัมพันธ์กิจกรรมให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศและระดับนานาชาติ รวมถึงการจัดงานวัดโดยจัดกิจกรรมการทำบุญ การจำหน่ายอาหาร ขนมไทยพื้นบ้าน สินค้าวัฒนธรรมและผลิตผลทางการเกษตร เพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชน อีกทั้งขอให้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการขับเคลื่อนตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรมและถนนสายวัฒนธรรม รวมทั้งส่งเสริมการแสดงของศิลปินพื้นบ้าน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม สร้างรายได้และความภาคภูมิใจในมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล