กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--พีอาร์ สตอรี่
ปัจจุบันมีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย และในขณะเดียวกันนิสิต นักศึกษา ที่จบออกมาอาจไม่ได้ทำงานสายเดียวกับคณะที่ตนเองจบมาก็ได้ เนื่องจากบางคนก็มีศักยภาพหรือพรสวรรค์ด้านอื่นๆ ที่ทำได้ดีและมีความสุขกับสิ่งนั้นๆ มากกว่า ดังนั้น บริษัท แบลคมอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เห็นความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวและต้องการที่จะส่งเสริมให้นิสิต นักศึกษา มั่นใจว่าเมื่อจบออกมาจะได้ประกอบอาชีพที่ใช่ในแบบที่ชอบ
จึงร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ เช่น ม.เกษตรศาสตร์ ม.มหิดล ม.ธรรมศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ม.กรุงเทพ ม.อัสสัมชัญ ม.หอการค้า จัดกิจกรรม The Chooser 101 ภายใต้แนวคิด Be a Winner Or Loser You can Choose ที่จะช่วยสร้างชีวิตใหม่ให้กับนักศึกษา โดยเชิญ 7 วิทยากร ในหลายสาขาอาชีพที่มีผลงานโดดเด่นและได้รับการยอมรับจากแวดวงต่างๆ มาแบ่งปันประสบการณ์ให้กับนิสิต นักศึกษา
น.ส. พรภัทร จิรเรืองปัญญา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แบลคมอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กิจกรรม Blackmores The Chooser 101 เปรียบเหมือนรหัสวิชาพิเศษที่จะช่วยสร้างชีวิตให้กับนิสิต นักศึกษาเลือกเส้นทางการประกอบอาชีพในอนาคตและการเตรียมความพร้อมโดยเริ่มจากพื้นฐานเรื่องสุขภาพ เพราะนักศึกษาเป็นกลุ่มวัยที่ยังขาดประสบการณ์ ขาดแรงบันดาลใจ ความเข้าใจเกี่ยวกับศักยภาพของตัวเอง และที่สำคัญขาดการดูแลสุขภาพตัวเองอย่างถูกต้องเนื่องจากยังอยู่ในวัยสนใจเรียนรู้สิ่งใหม่ใหม่มากกว่าการดูแลสุขภาพ ดังนั้น วิทยากรที่บรรยายในครั้งนี้ แบลคมอร์สจึงได้เชิญต้นแบบที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ และนำแนวคิดไปปรับใช้ค้นหาตัวเอง เพื่อเลือกเส้นทางไปสู่ความสำเร็จ และนอกจากการเตรียมความพร้อมในสายงานแล้ว ซึ่งสำคัญอีกประการที่นิสิต นักศึกษาควรมี คือความพร้อมที่จะดูแลตัวเองให้มีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะตัวเราเองคือผู้เลือกที่จะมีสุขภาพดีได้ทั้งกายและใจ (Be a Well Being)
สำหรับหนึ่งในวิทยากรมากความสามารถที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ได้แก่ น.ส.ปัณพัท เตชเมธากุล หรือยูน และน.ส.อรช โชลิตกุล หรือออสซี่ เจ้าของผลงาน The Wonder Factory หนังสือนิทานที่ตีพิมพ์เนื่องในโอกาสเปิดตัว Le Marche des Merveilles เครื่องประดับคอลเลคชั่นใหม่ของทาง"กุชชี่ (Gucci)" โดย "ยูน" บอกเล่าเคล็ดลับการค้นหาตัวเองว่า เรื่องของทัศนคติเป็นสิ่งสำคัญ คนเราสามารถเรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบตัว แต่ไม่เคยเรียนรู้ความต้องการ ความชอบของตัวเอง ถ้าเราค้นพบสิ่งเหล่านี้ผลักดันและยอมรับ นั่นคือความพิเศษที่ทุกคนมี แต่หากใครที่ยังไม่เจอลองมองตัวเองว่าเราชอบทำสิ่งใดเป็นประจำ ทำแล้วมีความสุข สิ่งนั้นจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเราได้ นอกจากนี้จะต้องสร้างความมั่นใจและเปิดโอกาสให้กับตัวเอง โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ Social Media เปรียบเหมือนเวทีที่ให้เราได้แสดงผลงาน หากเราปิดตัวเองจะพลาดโอกาสที่สำคัญ รวมถึงการมีสุขภาพดีจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างโอกาสให้กับชีวิต
ด้านน.ส.รรินทร์ ทองมา หรือต้า เจ้าของแบรนด์ O&B รองเท้าและกระเป๋าแบรนด์ดังบนโลกออนไลน์ เปิดเผยถึงความสำเร็จในวันนี้ว่า ก่อนที่จะมาทำธุรกิจเป็นของตัวเอง หลังจบการศึกษาก็ทำงานประจำมาก่อน ทำให้เรียนรู้การทำงานที่เป็นระบบ เข้าใจคำว่าการบริหารงาน บริหารองค์กรและสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจในปัจจุบัน นักศึกษาหลายคนอาจจะยังสับสนว่า เมื่อสำเร็จการศึกษาจะประกอบอาชีพอะไร สิ่งที่อยากแนะนำคือ ขอให้เลือกทำตามความปรารถนา (Passion) ของตัวเอง มากกว่ารายได้ที่จะได้รับ เลือกอาชีพหรือสายงาน ที่รัก เพราะความชอบในงานเป็นสิ่งสำคัญมาก บางคนต้องอยู่กับงานนั้นทั้งชีวิต ขอให้คิดเสมอว่าชีวิตของเรามีทางเลือกไม่ว่าเลือกสิ่งใดทุกอย่างถูกหมด แต่ต้องเข้าใจตัวเองว่าต้องการและมีเป้าหมายในชีวิตอย่างไร
นอกจากนี้คุณต้า ยังได้ฝากข้อคิดอีกว่า "ความเก่งของคนเราวัดกันยาก ในระบบมหาวิทยาลัย เราวัดกันที่เกรด แต่ในโลกธุรกิจไม่มีเกณฑ์มาวัด คนเราจะเก่งเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่จะต้องเข้าใจถึงความสุขที่ต้องการจริงๆ ส่วนในโลกของการทำงานให้ประสบความสำเร็จจะต้องมีความอึดและอดทน เมื่อพบเจออุปสรรคต้องไม่พร่ำบ่นกับปัญหา ไม่โทษโน่นโทษนี้ ต้องมองย้อนกลับมาที่ตัวเอง หาวิธีทางแก้ปัญหา"
ด้านนายพลภัทร ทรงธัมจิตติ หรือ ป๊อปป CMO และผู้ร่วมก่อตั้ง Getlinks แพลตฟอร์มหางานของคนรุ่นใหม่ เจาะกลุ่มผู้สนใจเทคโนโลยี ดีเวลลอปเปอร์ ดีไซเนอร์ และนักการตลาดดิจิทัล กล่าวว่า การค้นหาตัวตนนั้น จะต้องเริ่มจากการเรียนรู้สิ่งเล็กๆก่อน โดยอาจลงมือทำ 10 อย่างและเลือกให้เหลือเพียง 1 อย่างเท่านั้น ไม่ใช่เลือก 1 อย่างและดั้นด้นทำสิ่งนั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เราต้องรู้ความต้องการของตัวเอง ถ้าไม่รู้ให้คาดเดาไปก่อน คนเก่งจริงๆต้องกล้าที่จะฝันและพยายามทำตามฝัน แต่เมื่อไม่ใช่ก็กล้าที่จะเปลี่ยนและยอมรับ โดยให้คิดเสมอว่า ความล้มเหลวเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จ (Failure is pass of success)
ในอีก 3 ปีข้างหน้าตลาดแรงงานจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก สำหรับนักศึกษาที่จะสำเร็จการศึกษาเข้าสู่ตลาด อยากแนะนำว่าจะต้องพัฒนาตัวเองให้ทันกับกระแสของโลกที่กำลังขยับ คือ ต้องมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีไม่มากก็น้อย ความรู้ด้านภาษาอังกฤษจะต้องมีความคล่องในภาษาเพื่อใช้ติดต่อสื่อสาร รวมถึงจะต้องมีจุดมุ่งหมายในการทำงานที่ชัดเจน
"ผู้ชนะ คือคนที่กล้าเลือกในทางของตัวเอง อาจไม่เหมือนใครมีความแตกต่าง แต่มีคุณค่าสำหรับตัวเอง และผู้อื่น เป็นคนที่มองเห็นตัวเองชัดเจน และสามารถแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ให้กับคนอื่นได้"