กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีความเห็นต่อผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่า กนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นับเป็นการลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ครั้งที่ 21 ติดต่อกัน โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้าและซื้อขายอยู่ใกล้ระดับ 32.72 ต่อดอลลาร์ ภายหลังการประชุมของกนง. นับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทแข็งค่าขึ้น 8.5% และเป็นหนึ่งสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในเอเชีย ด้วยแรงหนุนจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดและกระแสเงินไหลเข้าพอร์ตลงทุนในตลาดตราสารหนี้ คณะกรรมการกนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่อุปสงค์ในประเทศขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้ออย่างช้าๆ ส่วนการเติบโตของรายได้ที่ยังไม่กระจายเท่าที่ควรและภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงจะส่งผลต่อการบริโภคเอกชน คณะกรรมการย้ำถึงการมีเสถียรภาพของค่าเงินบาท แต่เตือนว่าอาจมีความผันผวนมากขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ คณะกรรมการได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตของจีดีพีของทั้งปี 2560 และ 2561 เป็น 3.9% จาก 3.8% เนื่องจากแนวโน้มที่แข็งแกร่งของภาคส่งออก และได้ปรับขึ้นคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเป็น 0.7% ในปีนี้ แต่ปรับลดคาดการณ์ปี 2561 เป็น 1.1% เทียบกับช่วงเป้าหมายของทางการที่ 1.0-4.0%
คณะกรรมการกนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 โดยในวันนี้ กนง. มีมุมมองเชิงบวกอย่างระมัดระวังเหมือนก่อนหน้านี้ โดยกนง. ระบุถึงปัจจัยเสี่ยงอย่างเช่น พฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน และความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างประเทศ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ มองว่ากนง. น่าจะยังคงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมอย่างน้อยจนถึงกลางปี 2561 ก่อนที่จะพิจารณาการปรับขึ้นดอกเบี้ยจนถึงปลายปีหน้า ถ้าหากแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจยังเป็นบวกต่อเนื่อง