ที่สุดแห่งความปลาบปลื้ม ครั้งหนึ่งในชีวิตของชาวไทย กับงานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค

ข่าวทั่วไป Thursday October 25, 2007 09:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
อีกครั้งหนึ่งที่ปวงชนชาวไทยจะได้มีโอกาสอันดียิ่งกับ พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค โดย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการมอบประสบการณ์สุดประทับใจแห่งแผ่นดินสยาม ให้กับลูกค้าเอไอเอส เซเรเรนด ร่วมชมความงดงามครั้งนี้ โดยจะมีขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน (พิธีซ้อมใหญ่ แต่งกายเสมือนจริง) และวันที่ 5 พฤศจิกายน (วันจริง) ท่ามกลางบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ร้านฟิชเชอร์แมน ท่ามหาราช โดยได้รับเกียรติจาก วิทยากรผู้ชำนาญการ อ.เผ่าทอง ทองเจือ ร่วมบรรยายรายละเอียดเป็นเกร็ดความรู้
อ.เผ่าทอง ทองเจือ ได้รับเชิญจาก เอไอเอส ให้เป็นผู้บรรยายในพิธีครั้งนี้ กล่าวว่า “ในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดียิ่งสำหรับปวงชนชาวไทย รวมทั้งชาวต่างชาติที่จะได้เห็นความงดงามของประเพณีวัฒนธรรมไทยที่มิอาจหาดูได้จากชาติใดในโลก ซึ่งในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ได้มีการจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารคมาแล้ว 15 ครั้ง ล่าสุดในงานราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อ พ.ศ.2549 ที่ผ่านมา ส่วนในครั้งนี้เป็นการถวายผ้าพระกฐิน โดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค ซึ่งเป็นประเพณีทำบุญสำคัญยิ่งของพุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะกฐินหลวง ซึ่งบำเพ็ญพระราชกุศลโดยพระเจ้าแผ่นดิน โดยถือว่าไม่ว่าวัดราษฎร์หรือวัดหลวงหากพระเจ้าแผ่นดินเสด็จพระราชดำเนินไปทรงถวายผ้ากฐินแล้ว
จะเรียกว่ากฐินหลวงทั้งสิ้น ทั้งนี้ประเพณีการถวายผ้าพระกฐินนั้น กำหนดให้จำนวนพระสงฆ์ในวัดที่จะทอดกฐิน จะต้องมีจำนวนอย่างน้อย 5 รูป โดยแต่ละรูปคือพระสงฆ์ที่จำพรรษาในวัดนั้นครบ 3 เดือน และต้องกระทำในช่วงเวลาที่กำหนดคือตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 โดยปีนี้วันที่ 5 พฤศจิกายน ตรงกับแรม 11 ค่ำ เดือน 11
แต่เดิมนั้นกระบวนพยุหยาตราชลมารค ใช้ในพระราชสงครามทางน้ำ แต่ในยามบ้านเมืองสงบตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจึงโปรดเกล้าให้จัดเป็นกระบวนเสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชพิธีสำคัญ เช่น พระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน , พระราชพิธีบรมราชาภิเษก , การอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ , การต้อนรับทูตจากต่างประเทศ ตลอดจนพระราชพิธีพระบรมศพ โดยนำเรือรบมาตกแต่งอย่างสวยงาม เข้ากระบวนเป็นเรือสำหรับพระราชพิธี เมื่อครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยามักจะกระทำเพื่อถวายผ้าพระกฐินเป็นสำคัญ โดยจัดริ้วกระบวนได้เป็น 2 แบบ เรียกว่า กระบวนพยุหยาตราใหญ่ ซึ่งจัดเป็น 4 สาย และกระบวนพยุหยาตราน้อย ซึ่งจัดเป็น 2 สาย การจัดริ้วกระบวนแบ่งออกเป็น 5 ตอน คือ กระบวนนอกหน้า กระบวนในหน้า กระบวนเรือพระราชยาน กระบวนในหลังและกระบวนนอกหลัง
นอกจากนั้นการเห่เรือยังเป็นกิจกรรมที่ควบคู่มากับการเดินทางทางน้ำ จำแนกได้ 2 ประเภท คือการเห่เรือในงานพระราชพิธี เรียกว่า “การเห่เรือหลวง” และการเห่เรือสำหรับเที่ยวเตร่ในงาน เรียกว่า “เห่เรือเล่น” ซึ่งปัจจุบันได้ลดความสำคัญลงไป คงมีแต่การเห่เรือหลวงที่ดำรงอยู่และถือเป็นโบราณราชประเพณีที่ต้องรักษาไว้เป็นมรดกของชาติสืบต่อไป ซึ่งในปีนี้ได้มีการแต่งบทเห่เรือใหม่ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา จำนวน 3 บท คือ บทสรรเสริญพระบารมี , บทบุญกฐิน และบทชมกระบวนเรือ ซึ่งประพันธ์โดยนาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย โดยความพิเศษยิ่งของกระบวนเรือพยุหยาตราชลมารคในครั้งนี้ซึ่งถือเป็นครั้งยิ่งใหญ่ โดยคาดว่าพระราชวงศ์ทุกพระองค์จะเสด็จประทับเรือพระที่นั่ง ให้ประชาชนได้ชื่นชมพระบารมี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงพสกนิกรอย่างหาที่สุดมิได้ และเป็นอีกเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้อีกครั้งหนึ่งในชีวิตของปวงชนชาวไทย”
ที่สุดแห่งความปลาบปลื้มใจ สำหรับลูกค้าเอไอเอส เซเรเนด พร้อมจารึกไว้กับชาวไทยทุกคน ในวันที่ 2 พฤศจิกายนศกนี้ (พิธีซ้อมใหญ่เสมือนจริง) และวันที่ 5 พฤศจิกายนศกนี้ (รอบจริง) กับหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์อันแสนประทับใจ
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2434-8300 , 0-2434-8547
คุณสุจินดา , คุณแสงนภา , คุณชินนารี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ