กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี
สาขาเทคโนโลยีภูมิทัศน์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เข้ารับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ รางวัลชนะเลิศการประกวดการจัดสวนหย่อม ประเภทนิสิตหรือนักศึกษา ระดับอุดมศึกษา และรางวัลชนะเลิศการประกวดการจัดสวนหย่อม ประเภทประชาชนทั่วไป ภายใต้แนวคิด"เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่เสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๑๐" จัดโดยศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค มีทีมการทั่วประเทศเข้าร่วมจากแข่งขันกว่า 40 ทีม
นายวีระยุทธ นาคทิพย์ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา คณะเทคโนโลยีการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค จัดการประกวดการจัดสวนหย่อม ภายใต้แนวคิด"เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสที่เสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๑๐" ประเภทนิสิตหรือนักศึกษา ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป ชิงถ้วยพระราชทานถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเงินรางวัลรวมกว่า 160,000 บาท เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่เสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๑๐ ดำเนินรอยตามแนวพระราชดำริ เรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเป็นการกระตุ้นให้นิสิตนักศึกษาและประชาชนทั่วไปหันมาสนใจในการปรับภูมิทัศน์ภายในที่อยู่อาศัยให้มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้น โดยทางสาขาเทคโนโลยีภูมิทัศน์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร ได้เข้าร่วมการแข่งขันทุกปี เพื่อเป็นการสนับสนุนให้นักศึกษาได้แสดงศักยภาพ และได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หาไม่ได้จากในห้องเรียน ซึ่งในปีนี้ได้ส่งเข้าร่วมทั้งหมด 4 ทีม
โดยทางสาขาเทคโนโลยีภูมิทัศน์ คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทนิสิตหรือนักศึกษา ระดับอุดมศึกษา ได้แก่ "ทีมปลายฝน" ประกอบด้วย นายชิษณุชา รัตนวงศ์ นายธัชธร คิดควร นายพงษ์สิทธิ์ ศรีวะอุไร นางสาวพัชยา จันเพ็ง และนางสาวณิชารัศมิ์ รุจิระชัยเวศช์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 รางวัลชนะเลิศประเภทประชาชนทั่วไป ได้แก่ "ทีมฟรุ้งฟริ้งกิ่งก่องแก้ว" ประกอบด้วย นายขวัญชัย กลั่นประสิทธิ์ นายเสกฐวุฒิ ช้างงาม นายพีรวัส ระเบียบ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 นายกิตติพงษ์ ศรีพานิช ศิษย์เก่าปีการศึกษา 2559 และนายพงศกร สุขแสงแก้ว นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 การประกวดการจัดสวนหย่อม ประเภทนิสิตหรือนักศึกษาระดับอุดมศึกษา ได้แก่ ทีม "feeling in to form" ประกอบด้วย นายพัฒนเศรษฐ์ ประชากูล นายวิศิษฐ์ สุริโย นายณัฐพล ปวินธาดา นางสาวอฑิตา สุรบูรณ์กุล และนางสาวอภิญญา ทนงจิตต์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ได้รับรางวัลชมเชย ประเภทประชาชนทั่วไป ได้แก่ ทีมรักราชมงคล "ธัญ" ประกอบด้วย นายนราวิชญ์ รุ่งอินทร์ นายเรวุฒิ
มุคุระ นายศิลป์ สายทิพย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 อาจารย์พิศาล ตันสิน และอาจารย์วีระยุทธ์ นาคทิพย์
นายชิษณุชา รัตนวงศ์ ตัวแทนทีมปลายฝน ชนะเลิศประเภทนิสิตหรือนักศึกษา ระดับอุดมศึกษา เล่าว่า สำหรับผลงาน "สานต่อพระราชปณิธาน" แนวคิดในการออกแบบ คือ การสานต่องานตามรอยพ่อรัชกาลที่ 9 สู่รัชกาลที่ 10 ใต้ร่มพระบารมีล้นเกล้ารัชกาลที่ 10 พระองค์ท่านเปรียบเสมือนเปลวของแสงเทียน ให้กับประชาชนชาวไทย ส่องสว่างกลางใจคนไทย การนำแสงเข้ามาช่วยในการจัดแสง นำเอาเศษวัสดุอุปกรณ์เหลือใช้เข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อเป็นการประหยัด ด้วยความพอเพียง จุดเด่นของผลงานอยู่ที่ การประดิษฐ์สร้างสรรค์ เลข 1 ไทยขึ้นมา โดยการใช้แสงส่องมาจากด้านหลัง เปรียบเสมือนรัชกาลที่ 10 ขึ้นครองราชย์เป็นปีแรก ในการจัดสวนนำต้นลำดวนมาเป็นไม้ประธาน ซึ่งต้นลำดวนเป็นพุ่ม ทำให้ได้ร่มเงา ไม้รองประธานในการจัด คือ ต้นหมากเหลือง เข้ากับโทนสีที่เน้นออกไปทางสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำรัชกาลที่ 10 ตกแต่งด้วยกล้วยไม้สีขาวชมพูและสีเหลือง
ทางด้าน นายขวัญชัย กลั่นประสิทธิ์ ตัวแทนทีมฟรุ้งฟริ้งกิ่งก่องแก้ว ทีมชนะเลิศประชาชนทั่วไป เล่าว่า ผลงาน "ของขวัญแด่พ่อ" แนวคิดในการออกแบบ ในการขึ้นครองราชย์ของรัชกาลที่ 10 นำมาซึ่งความปีติยินดี ของประชาชนชาวไทย ในการประกวดรุ่นประชาชนทั่วไปต้องใช้กล้วยไม้ 100 % โดยกล้วยไม้ที่นำมามีหลากหลายสกุล เช่น แวนด้า หวาย ออนซิเดียม เข็ม แคทลียา โดยทั้งหมดเน้น สีม่วงอมชมพู สีส้มและสีเหลือง ซึ่งกล้วยไม้แวนด้าสีม่วงอมชมพู เป็นสีประจำสาขาเทคโนโลยีภูมิทัศน์ โดยโครงสร้างและรูปแบบของการจัดเน้นไปทางวินเทจ จำลองเป็นระเบียงชั้น 2 มีบันไดเดินขึ้นไปยังชั้น 2 เหมือนลักษณะของบ้านในชนบท นำเหรียญ 10 บาท เหรียญ 2 บาท เหรียญ 25 ,50 ,75 สตางค์มาประดิษฐ์สร้างเป็นเลข 10 ไทย เหมือนเป็นการสานต่องานพ่อสร้าง ซึ่งในเหรียญเหล่านั้นจะมีรัชกาลที่ 9 ทุกเหรียญ ในการออกแบบต้องการสื่อความหมายของประชาชนที่มีต่อรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10