กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
วันที่ 21 ธันวาคม 2560 ณ ห้อง Phoenix 1-6 อาคาร IMPACT Exhibition เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงานสู่ SMEs 4.0 0 เพื่อเพิ่มผลิตภาพแรงงานแก่คนทำงานในสถานประกอบกิจการ SMEs วิสาหกิจชุมชน OTOP ลดการสูญเสียในกระบวนการผลิตสินค้าและบริการ
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยในงานดังกล่าวว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการวางรากฐานการพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พัฒนาประเทศมุ่งสู่ Thailand 4.0 กระทรวงแรงงานจึงได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนากำลังคนของประเทศ ระยะ 20 ปี เน้นภารกิจการเพิ่มผลิตแรงงานแรงงานสู่ Thailand 4.0 ให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นสถานประกอบกิจการขนาดกลางและขนาด (SMEs) ให้เป็น Brain Manpower ตอบสนองนโยบายของกระทรวงแรงงานด้านการบริหารแรงงานให้คนไทยมีงานทำอย่างถ้วนทั่ว สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ด้วยการประกาศนโยบายและเป้าหมายให้ "แรงงานที่มีศักยภาพสูงและคุณภาพชีวิตที่ดี ย่อมนำประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน"
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่าจากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ SMEs ในประเทศไทย มีมากกว่า 2 ล้านราย ครอบคลุมการจ้างงานมากกว่า 10 ล้านคน มูลค่าทางเศรษฐกิจรวมมากกว่า 5 ล้านล้านบาท กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) เล็งเห็นความสำคัญของ SMEs จึงได้จัดทำ "โครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน สู่ SMEs 4.0 เพื่อเพิ่มผลิตภาพแรงงานแก่คนทำงานในสถานประกอบกิจการ SMEs วิสาหกิจชุมชน OTOP ให้ทีมงานที่เชี่ยวชาญเข้าไปปรับปรุงขบวนการผลิตสินค้าและบริการ และลดการสูญเสียให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ด้วยการให้ทีมปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเข้าไปร่วมปรับปรุงขบวนการผลิต ในการลดความสูญเสียดังกล่าว พัฒนาบุคลากรของกพร. ให้มีความสามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ที่ผ่านมาพัฒนาศักยภาพคนทำงานและผู้ประกอบกิจการจำนวน 73,576 คน เพิ่มผลิตภาพแรงงานและลดการสูญเสียในวงจรการผลิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท สร้างความมั่นคงให้กับสถานประกอบกิจการ 918 แห่ง สำหรับในปี 2561 มีการวางเป้าหมายให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบกิจการ 185 แห่ง และการทำตลาดเชิงรุกจัด "คลินิกผลิตภาพแรงงานสัญจร" ในพื้นที่กทม. และทั่วประเทศ เพื่อนำบริการของหน่วยงานให้เข้าถึงประชาชน ลดรายจ่ายครัวเรือน และขยายการให้บริการภาครัฐให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ห่างไกล สร้างเครือข่ายในการเพิ่มผลิตภาพแรงงานไทยตามแนวทางประชารัฐ 5,000 คน
"การดำเนินโครงการดังกล่าว มิได้จะคาดหวังเพียงเชิงตัวเลขเท่านั้น หากแต่ยังคำนึงถึงความมั่นคง มั่งคั่ง ยังยืน ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาความคิดเชิงระบบ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน เมื่อผู้ประกอบกิจการและคนทำงานในกลุ่ม SMEs วิสาหกิจชุมชน OTOP ได้รับการพัฒนาเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป" รมว.แรงงาน กล่าว