มูลนิธิไทยคม จัดกิจกรรม “You Can Do It!” ให้ครูไทย เข้าใจตนเข้าใจนักเรียน

ข่าวทั่วไป Thursday October 25, 2007 09:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--แม็กซิม่า คอลซัลแตนท์
มูลนิธิไทยคม มูลนิธิแห่งการเรียนรู้แนวใหม่ เพื่อพัฒนาเยาวชนไทย จัดทำกิจกรรม ”โครงการพัฒนาเยาวชนไทยไปสู่ฝัน” หรือ “You Can Do It!” โครงการดีๆ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างมูลนิธิไทยคมและองค์กรการกุศลที่ชื่อว่า Save the Children ประเทศสิงคโปร์ โดย Trybe International นำเข้ามาให้มูลนิธิไทยคมปรับใช้ในประเทศไทย อันเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จะทำให้เยาวชนไทยรวมทั้งผู้ใหญ่อย่างเราๆ รู้จักตนเอง ผ่านทฤษฎีเชิงพฤติกรรม “DISC” เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จแห่งฝัน ล่าสุด มูลนิธิไทยคม ได้ไปทำกิจกรรมนี้กับเหล่าพ่อพิมพ์แม่พิมพ์กว่า 70 ชีวิตแห่งโรงเรียนบ้านสันกำแพง จ.เชียงใหม่ ท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงหัวเราะภายใต้บรรยากาศใกล้ชิดและเป็นกันเอง
กิจกรรม You Can Do It! เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2549 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมแล้วกว่า 6,000 คน ในช่วงแรกจัดกิจกรรมในโรงเรียนทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ภายใต้รูปแบบครอบคุลม 3 มิติ คือ ทั้งตัวเด็กเอง ครู และผู้ปกครอง เพราะว่าทั้ง 3 ส่วนนี้มีความใกล้ชิดและผูกพันกันมากที่สุด บพิธ โกมลภิส ผู้จัดการ มูลนิธิไทยคม กล่าวว่า “นอกจากการส่งเสริมเรื่องของการศึกษาแล้ว เรื่องของสังคมก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะมูลนิธิไทยคมมีวัตถุประสงค์สนับสนุนให้เยาวชนไทยมีความรู้ ความสามารถที่จะสู้ได้ในยุคโลกาภิวัฒน์ ที่เราจัดกิจกรรม You Can Do It! ครั้งนี้ก็เพื่อให้ครูรู้จักตนเองว่ามีพฤติกรรมกลุ่มไหน ซึ่งจะสามารถนำไปปรับใช้กับการเรียนการสอนให้ง่ายขึ้น และยังสามารถดึงลักษณะพิเศษของนักเรียนแต่ละคนออกมา เพื่อผลักดันและส่งเสริมเขาให้ก้าวไปสู่ความฝันที่หวังไว้ได้”
แบบประเมินพฤติกรรม “DISC” ไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าคุณเป็นคนดีหรือไม่ดี แต่จะบอกพฤติกรรมโดยหลักๆ ว่าพฤติกรรมที่คุณแสดงออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งแยกออกได้เป็น 4 กลุ่มหลักด้วยกัน คือ กลุ่ม D มีพฤติกรรมตรงไปตรงมา มุ่งมั่น เป็นผู้นำ คิดเร็ว ทำเร็ว กล้าติดสินใจ กล้าแสดงออก ชอบความท้าทาย, กลุ่ม I มีพฤติกรรมสนุกสนาน พูดคุยเก่ง ชอบสังคม มองโลกในแง่ดี ชอบการยอมรับ มีมนุษยสัมพันธ์ดี, กลุ่ม S มีพฤติกรรมชอบช่วยเหลือคน ใจเย็น ซื่อสัตย์ อะลุ่มอล่วย อบอุ่น ชอบบริการ ชอบความมั่นคง ท้ายสุดคือ กลุ่ม C มีพฤติกรรมชอบความถูกต้อง ความมีระเบียบเรียบร้อย ทำอะไรเป็นขั้นตอน ชอบวางแผน ระมัดระวัง รักษากฎเกณฑ์
อะไรที่มากเกินไปอาจมีผลร้าย อะไรที่น้อยเกินไปอาจไม่เพียงพอ สำหรับอาชีพเรือจ้างอย่างครู ผู้จัดการ มูลนิธิไทยคม กล่าวเพิ่มเติมว่า “บางครั้งการที่ครูใช้พฤติกรรมกลุ่ม D มาก อาจทำให้เด็กกลัวไม่กล้าตัดสินใจ เพราะว่าครูตัดสินใจให้เขาไปหมดแล้ว และด้วยที่มี D มาก ก็จะไม่ฟังใคร ฟังตัวเองเป็นหลัก เด็กก็จะไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น หรือครูที่
มีพฤติกรรมกลุ่ม I มากเกินไป สนุกสนานอย่างเดียว บางครั้งเด็กไม่ได้เนื้อหาความรู้ หรือครูบางคนมีพฤติกรรมกลุ่ม S มากให้ความช่วยเหลือเด็กตลอด เด็กก็จะไม่รู้จักโต เพราะว่าทุกอย่างครูทำให้หมด หรือครูที่พฤติกรรมกลุ่ม C มากไป ละเอียด ชอบความถูกต้อง เวลาสอนหนังสือทุกอย่างข้ามไม่ได้ สำคัญหมด อาจทำให้สอนไม่ทัน”
“เมื่อเรารู้ว่าเรามีพฤติกรรมกลุ่มไหน สิ่งที่เราต้องทำคือ 3 A ได้แก่ Aware เป็นคนตระหนักรู้ คือรู้ว่าเราเป็นคนประเภทไหน, Accept ยอมรับ คือยอมรับตัวเองและรู้ว่าคนอื่นเป็นคนประเภทไหนก็ต้องยอมรับเขาด้วย และ Adapt ปรับตัว คือ ปรับเข้าหากันเพื่อความเหมาะสม เช่นคำพูดที่ว่า ความแตกต่างคือความแตกต่าง ความแตกต่างไม่ได้บอกว่าคนๆ นั้นผิดหรือถูก เด็กคนหนึ่งอาจจะต่างจากเด็กคนหนึ่ง คนหนึ่งอาจจะเก่งวิชาการประกอบอาชีพเป็นหมอ อีกคนหนึ่งอาจจะเก่งวาดรูปประกอบอาชีพเป็นจิตกร เขาแตกต่างกัน แต่ว่าเขาไม่ได้มีอะไรผิด เขาสามารถที่จะประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน”
ท้ายสุด ตัวแทนแห่งมูลนิธิไทยคม บอกว่า “หัวใจกิจกรรม You can Do It! คือต้องการให้เยาวชนมีความเข้าใจในพฤติกรรมของตัวเอง เพราะว่าทุกวันนี้ เยาวชนไทยแวดล้อมด้วยสิ่งยั่วยุมากมาย อย่างไรก็ตาม คนทุกคนควรจะดำเนินชีวิตโดยมีการตั้งความฝันหรือเป้าหมาย เมื่อมีความฝันและเป้าหมายที่ชัดเจน ก็อยากให้รู้ศักยภาพของตนเอง เมื่อรู้ศักยภาพก็จะรู้ว่าต้องพัฒนาส่วนไหนเพื่อให้ไปสู่ความฝันหรือเป้าหมายนั้น ที่สำคัญที่สุดคือต้องรู้จักตนเอง เพราะถ้าไม่รู้จักตนเองก็ไม่สามารถทำอะไรต่อไปได้”
แล้ววันนี้ คุณคิดว่าคุณรู้จักตัวเองดีแค่ไหน...!?!
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอลซัลแตนท์ จำกัด โทร 0-2434-8300
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณปิติยา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ