กรุงเทพฯ--26 ธ.ค.--ไทยออยล์
บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ.ไทยออยล์: ฉบับวันที่ 25 ธันวาคม 2560
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 56-61 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 62-67 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ( 25 – 29 ธ.ค. 60)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดจะทรงตัวอยู่ในระดับสูง จากการซ่อมบำรุงท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forties ที่มีกำลังการขนส่งอยู่ที่ 450,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งคาดจะแล้วเสร็จในเดือน ม.ค. 61 รวมถึงปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 หลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มกำลังการกลั่นสูงขึ้นเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันเพื่อทำความร้อนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ การลดกำลังการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตทั้งในและนอกโอเปกจนถึงสิ้นปีหน้า ส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบมีความตึงตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องใกล้ระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
- จับตาการปิดซ่อมบำรุงท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forties ที่ขนส่งน้ำมันดิบได้ถึง 450,000 บาร์เรลต่อวัน ว่าจะสามารถกลับมาดำเนินการได้เมื่อไหร่ จากที่ได้ปิดซ่อมบำรุงในวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา หลังสำรวจพบการร้าวของท่อในละแวกชายฝั่งของเมือง Aberdeen โดยน้ำมันดิบ Forties เป็นน้ำมันดิบหลักที่ใช้คำนวณราคาน้ำมันดิบ Brent การหยุดชะงักดังกล่าวจึงทำให้ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดย Ineos ผู้ดำเนินการท่อขนส่งเปิดเผยว่าจะใช้เวลา 2-4 สัปดาห์ ในการซ่อมบำรุง
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน โดยในสัปดาห์ล่าสุด ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ระดับ 436.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงกว่า 6.5 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า หลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มกำลังการกลั่นสูงขึ้นถึงร้อยละ 94.1 ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา
- การร่วมมือของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกที่มีเป้าหมายจะลดปริมาณน้ำมันคงคลังของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (OECD oil stocks) สู่ระดับค่าเฉลี่ย 5 ปี โดยตั้งเป้าหมายจะลดกำลังการผลิตที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนสิ้นปี 2561 ซึ่งความร่วมมือยังคงอยู่ในระดับที่ดี หลังรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของคูเวตเผยว่าอัตราความร่วมมือของทั้งผู้ผลิตทั้งสองเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 122 ในเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย Khalid al-Falih ได้ออกมากล่าวว่าเร็วเกินไปที่จะหารือกันถึงยุทธศาสตร์ทางออกของการลดกำลังการผลิตน้ำมันที่จะยุติลงในสิ้นปีหน้า อย่างไรก็ตาม เมื่อตลาดน้ำมันดิบกลับสู่สมดุล กลุ่มผู้ผลิตจะทยอยเพิ่มการผลิตเพื่อให้ตลาดมีความสมดุลอย่างยั่งยืน
- กำลังการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จากการที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค. ขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มการผลิตอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 9 นอกจากนี้ EIA คาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะปรับสูงขึ้นสู่ระดับกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวันในไตรมาสแรกของปี 2561
- ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ และดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐฯ
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (18 – 22 ธ.ค. 60)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.17 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 58.47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.02 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 65.25 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 62.22 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน โดย EIA รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค. ปรับลดลง 6.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 3.8 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ การปิดดำเนินการของท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forties ซึ่งมีกำลังการขนส่ง 450,000 บาร์เรลต่อวัน ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม ราคาได้รับแรงกดดันจากการผลิตน้ำมันดิบและการส่งออกของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.8 และ 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ