กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. สั่งให้บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) (“POMPUI”) แก้ไขงบการเงิน ซึ่งตรวจสอบ และสอบทานโดยนายสมชาย คุรุจิตโกศล สังกัด บริษัท เอส.เค. แอคเคาน์แต้นท์ เซอร์วิสเซส จำกัด โดยให้
(1) ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับลูกหนี้รายบริษัท กว้างโฮลดิ้ง จำกัด เต็มจำนวน ในงบการเงินปี 2547 และ
(2) แก้ไขงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2548 ตามผลกระทบที่เกิดจากการแก้ไขงบการเงินปี 2547 โดยให้นำส่งงบการเงินที่แก้ไขแล้วต่อ ก.ล.ต. ภายในวันที่ 22 มิถุนายน 2548
สาเหตุของการสั่งการดังกล่าว เนื่องจาก POMPUI มีเงินให้กู้ยืมแก่บริษัท กว้างโฮลดิ้ง จำกัด (“กว้างโฮลดิ้ง”) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ POMPUI มาเป็นเวลาหลายปี และมีข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นว่ากว้างโฮลดิ้งน่าจะไม่สามารถจ่ายชำระหนี้แก่ POMPUI ได้ ดังนี้
1. กว้างโฮลดิ้งมีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานไม่ดี ประสบปัญหาขาดทุนในการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง จนมีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ และยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่ากว้างโฮลดิ้งจะสามารถหาแหล่ง
เงินทุนอื่นมาจ่ายชำระหนี้ POMPUI ได้ นอกจากนี้ ที่ผ่านมา POMPUI มีการปรับโครงสร้างหนี้ให้กว้างโฮลดิ้งมาแล้ว 2 ครั้งในปี 2543 และปี 2546 โดยแต่ละครั้งกว้างโฮลดิ้งก็ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้แก่ POMPUI ได้ตามสัญญา
2. POMPUI มีผลการดำเนินงานไม่ดีประสบปัญหาขาดทุนมาโดยตลอดจนทำให้มีขาดทุนสะสม ณ 31 มีนาคม 2548 เป็นจำนวนถึง 340.8 ล้านบาท และยังมีความไม่ชัดเจนว่า POMPUI จะสามารถทำกำไร
เพียงพอที่จะล้างขาดทุนสะสม และจ่ายเงินปันผลแก่กว้างโฮลดิ้ง เพื่อกว้างโฮลดิ้งจะได้นำเงินดังกล่าว
มาชำระหนี้ POMPUI ได้
อย่างไรก็ดี POMPUI ได้ตั้งค่าเผื่อฯ ในปี 2547 และไตรมาส 1 ปี 2548 ไว้เพียง 163.3 ล้านบาท และ 365.2 ล้านบาท ตามลำดับ จากยอดเงินให้กู้ยืมทั้งหมด 730.3 ล้านบาท ก.ล.ต. จึงสั่งให้ POMPUI ตั้งค่าเผื่อฯ สำหรับรายการ
ดังกล่าวทั้งจำนวนในปี 2547 และให้แก้ไขงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2548 ตามผลกระทบที่เกิดจากการแก้ไขงบการเงินปี 2547 โดยการแก้ไขดังกล่าวจะทำให้งบการเงินปี 2547 แสดงสินทรัพย์รวมลดลง 567 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 52 และขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้น 567 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 460 และงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2548 แสดงสินทรัพย์รวมลดลง 365 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 43 และขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้น 365 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 107
อนึ่ง เนื่องจากผู้สอบบัญชีรายงานอย่างไม่มีเงื่อนไขต่องบการเงินข้างต้น ก.ล.ต. จึงจะพิจารณารายละเอียดการปฏิบัติงานของผู้สอบบัญชี ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป--จบ--