กรุงเทพฯ--26 ธ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ใช้รถใช้ถนนเตรียมสภาพร่างกาย ให้พร้อมขับรถในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ โดยนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสม ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท และไม่ควรขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยหยุดพักรถเป็นระยะทุก 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการง่วงหลับใน จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่าสัปดาห์นี้เป็นช่วงวันหยุดยาว เทศกาลปีใหม่ ในระหว่างสิ้นปีพ.ศ.๒๕๖๐ – ต้นปีพ.ศ. ๒๕๖๑ คาดว่า จะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา ทำบุญ และท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ปริมาณการจราจรค่อนข้างหนาแน่นในทุกเส้นทาง จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะผู้ขับขี่เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมขับรถ ดังนี้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงก่อนขับรถทางไกลควรนอนหลับอย่างน้อย วันละ 7 – 8 ชั่วโมง ติดต่อกันอย่างน้อย 2 คืน ไม่อดนอนติดต่อกันหลายวัน เพราะจะทำให้เกิดอาการง่วงนอนสะสม หากขับรถจะทำให้หลับใน ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ หลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้เกิดอาการง่วงนอน โดยไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ไม่ทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง ไม่สามารถแก้ไขเหตุฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย รวมถึงหลีกเลี่ยง การเดินทางในเวลากลางคืน เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการการพักผ่อน ทำให้เสี่ยงต่อการหลับใน ไม่ขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยหยุดพักรถทุก 2 ชั่วโมง หรือทุกระยะทาง 150 – 200 กิโลเมตร จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการหลับใน หากต้องการ เดินทางไกลควรมีเพื่อนร่วมทาง เพื่อผลัดเปลี่ยนกันขับรถ ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ ไม่ขับรถตามลำพัง พร้อมนำยาติดตัวไปด้วยเสมอ หากอาการของโรคกำเริบจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ทั้งนี้ การเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมขับรถ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลเข้าปีใหม่ ท้ายนี้ หากประสบหรือพบเห็นผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป