กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการผู้นำองค์กร/มูลนิธิ/เครือข่าย : การพัฒนาศักยภาพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย แก่เจ้าหน้าที่จากองค์กร มูลนิธิ และเครือข่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในวันที่ 14 กันยายน 2550 ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพถูกต้องตามหลักวิชาการ ตลอดจนมีความเข้าใจรูปแบบการประสานงานกับผู้บัญชาการเหตุการณ์ระดับต่างๆ
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทั้งภัยธรรมชาติ และภัยที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ จากการศึกษาปัญหาการจัดการภัยพิบัติในหลายกรณี พบว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่บุคลากรขาดความชำนาญ เครื่องมือ อุปกรณ์การกู้ชีพกู้ภัยไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้การค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัยล้าช้า และไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ดังนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการผู้นำองค์กร/มูลนิธิ/เครือข่าย:การพัฒนาศักยภาพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้แก่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ประกอบด้วย กระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กรมชลประทาน กรมทรัพยากรธรณี กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมโรงงานอุตสาหกรรม และ กรมควบคุมมลพิษ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพฯ หัวหน้าส่วนราชการระดับท้องถิ่น มูลนิธิ องค์กร สมาคมและเครือข่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย วิทยากรและเจ้าหน้าที่โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งทีมกู้ภัย จำนวน 500 คน ในวันศุกร์ที่ 14 กันยายน 2550 เวลา 09.00-16.00 น. ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร ซึ่งภายในงานจะมีการบรรยายในหัวข้อต่างๆ ได้แก่ การพัฒนาหน่วยเผชิญเหตุระดับตำบลสู่การเป็นหน่วยเผชิญเหตุระดับชาติ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกับการจัดการสาธารณภัย การป้องกันและระงับอัคคีภัย ในอาคารสูง การสาธิตการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์กู้ภัยที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และการจัดแสดงนิทรรศการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในวิทยาการ นวัตกรรมใหม่ๆ ด้านการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย อีกทั้งเป็นการพัฒนาศักยภาพในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และมีความเข้าใจในรูปแบบการประสานงานกับ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ระดับต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ