กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--Med Agency
กองบรรณาธิการ ข่าวเว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com รายงานว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ระหว่างวันที่ 25-26 ธันวาคม 2560 โดยเป้าหมายใหญ่คือ การดูแลผู้ป่วย กลุ่มเปราะบาง ด้วยโมเดล "บัดดี้" และทีมหมอครอบครัว ในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชภายใต้กองทุนสุขภาพหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่-รอบทิศของชาวไททรงดำบ้านดอน อ. อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
สิ่งที่ได้รับครั้งนี้คือ "นักสื่อสารสายสุขภาพยุคดิจิตอล" ได้ความรู้มากมายมหาศาล ซึ่งหลังจากคณะได้ไปแนะนำตัวกันที่ เทศบาลตำบลบ้านดอน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี จึงไปลงพื้นที่ดูงานด้านจิตเวชชุมชน
นำโดย นายทรงบท คุ้มฉายา นายกเทศมนตรีตำบลบ้านดอน น้องชายของพลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ต้อนรับคณะของ น.พ.ชูชัย ศรชำนิ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช.) และ สื่อมวลชน อย่างเป็นกันเอง
นอกเหนือจาก ประเด็นสำคัญการดูแลผู้ป่วย กลุ่มเปราะบาง แล้ว ยังได้ไปดูกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ใหญ่ ด้วย ลำแคน ซึ่งเป็นท่าทางการออกกำลังกาย บาร์สโลพ ของไทยทรงดำ( ลาวโซ่ง ) และเครือข่ายสุขภาพ ได้คิด จัดทำนวัตกรรมในการนวดตัวเองของผู้สูงอายุ ด้วยไม้ไผ่
ท่านทรงบท นายกเทศมนตรีตำบลบ้านดอนแล้ว ยังได้ริเริ่มงานพัฒนาท้องถิ่น การท่องเที่ยวในวิถีไทดำ และ ทางด้านการให้บริการสุขภาพแก่ประชาชน ร่วมกับ หมออนามัย ซึ่งมีนายสัจจา ธรรมวงษ์ ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลบ้านดอน ทำงานแบบบูรณาการ
ผู้ป่วยก็มี หมออนามัย อสม. ดูแล ป้องกัน รักษาในระดับปฐมภูมิ มีการหาอาชีพให้ทำอีกด้วย โดยการส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกพืชสมุนไพร เช่น หญ้าปักกิ่ง หญ้านวดแมว มะขามป้อม สมอไทย มะม่วงหาวมะนาวโห่ กระเจี๊ยบแดง ดีปลี มะระขี้นก ไพร ขมิ้นชัน ขิง ตะไคร้ เพชรสังฆาต ฯลฯ
จากนั้น ชาวบ้านได้ผลผลิต จึงนำไปขายที่ โรงพยาบาลอู่ทอง ตั้งอยู่ที่ ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชุมชนแม่ข่าย ( M2 )
ผลิตภัณฑ์พืชสมุนไพร ของ รพ.อู่ทอง นำไปรักษาคนไข้ทั้งพื้นที่ และ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งถือว่าโรงพยาบาลอู่ทอง เป็นเมืองสมุนไพรที่ไม่ธรรมดาเลย
หากใครได้ไปเห็นจะต้องบอกว่าสมุนไพร ของ รพ.อู่ทอง มีศักยภาพมาก และ หากมีการส่งเสริมอย่างเป็นทางการจะไปได้อย่างรวดเร็วกว่านี้อีกเยอะ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ได้ทำการประชาสัมพันธ์ คนทั่วไปจึงไม่ค่อยได้ยินชื่อเสียง
สมุนไพร ของ รพ.อู่ทอง เป็นของดีมาก โดยเฉพาะ "เจลว่านพระฉิม" ที่มีสรรพคุณแก้ปวด แผลสด แผลกดทับ ซึ่งหากได้ ท่านทรงบท คุ้มฉายา สนับสนุนอีกแรงจะทำให้ผลิตภัณฑ์พืชสมุนไพรสามารถขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของไทยเลย
โดยเฉพาะเรื่องการปรับเปลี่ยน ดีไซน์ แพคเกจจิ้ง ในรูปลักษณ์ของ สมุนไพรอู่ทอง เชื่อว่าจะกลายเป็นสินค้าส่งออกสร้างรายได้ให้ประเทศจำนวนมาก
ปัจจุบันมี พญ.สมพิศ จำปาเงิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และ อาจารย์อรสา โอภาสวัฒนา หัวหน้ากลุ่ม แพทย์แผนไทยประยุกต์ ได้รับผิดชอบงานวิจัย และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
เชื่อว่า อีกไม่นาน "สมุนไพร ของ รพ.อู่ทอง" จะต้องเพิ่มกำลังการผลิต ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเป็นมูลนิธิฯ เพื่อการบริหารให้คล่องตัว โดยการจับมือกันระหว่าง ท่านทรงบท คุ้มฉายา นายกเทศมนตรีตำบลบ้านดอน และ พญ.สมพิศ จำปาเงิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอู่ทอง จะประสบความสำเร็จอย่างมากมาย
ภายใต้การสนับสนุนจาก นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ท่านสนับสนุน "สมุนไพรไทย" ภายใต้งานวิจัย และ ได้มาตรฐานทางวิทยาศาสตร์
ท่านทรงบท ให้แง่คิดว่า "เราอยากให้ทุกโครงการที่คิดที่ทำมีความต่อเนื่อง และยั่งยืน ถ้าทำแบบไฟไหม้ฟาง อย่าไปทำ ไม่มีประโยชน์ต่อชุมชน หรือประเทศชาติ"
น่าลองให้ นพ.เกียรติภูมิ ได้เจรจา ผลักดันร่วมกับ ท่านทรงบท คุ้มฉายา รับรองสมุนไพรอู่ทอง ไปไกลแน่ๆ !!