กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--Passion2Success
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย (เอทีเอฟ) ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดการแข่งขันเทนนิสรายการพิเศษระดับโลก "อินเตอร์คอนติเนนตัล เวิลด์ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017" ที่เพิ่งปิดฉากไปที่เอสซีบี เซ็นเตอร์คอร์ท ทรู อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า การแข่งขันครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในแง่การโปรโมทหัวหินและประเทศไทย อันดับแรกมาจากการที่นักเทนนิสที่มาร่วมแข่งขันในครั้งนี้เป็นท็อป 10 ของโลกทั้ง 4 คน ทั้ง เยเลน่า ออสตาเพนโก้ มือ 7 ของโลกจากลัตเวีย เพิ่งคว้าแชมป์แกรนด์สแลม "เฟร้นช์ โอเพ่น" มาด้วยอายุ 19 ปี ซิโมน่า ฮาเล็ป มือ 1 ของโลกจากโรมาเนีย ก็เป็นมือ 1 ก่อนปิดฤดูกาล แคโรลิน่า พลิสโคว่า มือ 4 ของโลกจากสาธารณรัฐเช็ก ก็เป็นมือ 1 ในฤดูกาลนี้มาเช่นกัน ส่วนโยฮันน่า คอนต้า มือ 9 ของโลกจากอังกฤษก็ทำผลงานได้ดีในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีคนสนใจการแข่งขันครั้งนี้มาก
นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า สำหรับในปีหน้า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นนักเทนนิสหญิงหรือชายมาแข่งขัน เพราะต้องพิจารณาผลงาน ความน่าสนใจของนักหวดแต่ละคนว่าใครที่ดึงดูดแฟนเทนนิสได้มากที่สุด ซึ่งหลังจากจบแกรนด์สแลม "วิมเบิลดัน" ในเดือนมิถุนายน ปีหน้า ถึงจะเริ่มวางแผนต่างๆ ได้ แต่ขอยืนยันว่าจะเป็นนักเทนนิสระดับท็อปเหมือนทุกๆ ปี การแข่งขันรายการนี้มีรูปแบบ มีเอกลักษณ์ที่สมบูรณ์ขึ้นทุกปีตั้งแต่จัดมา ปีหน้าน่าจะยังมีนักหวดมาแข่ง 4 คนเท่าเดิม เพราะเคยจัด 6 คนแล้ว คิดว่ารูปแบบ 4 คนลงตัวที่สุด
ส่วนในเรื่องการขอเป็นเจ้าภาพรายการระดับเอทีพี ทัวร์ หรือดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ ที่สูงกว่าเอทีพี ชาลเลนเจอร์ทัวร์ และดับเบิลยูทีเอ 125K นั้น ประธานที่ปรึกษาเอทีเอฟ เปิดเผยว่า ยังคงสนใจที่จะจัดรายการระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการกลับมาจัดเทนนิสอาชีพชาย ไทยแลนด์ โอเพ่น หรือเทนนิสอาชีพหญิง พัทยา โอเพ่น แต่ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะจัดได้ในปีหน้าหรือไม่
"อยากให้ประเทศไทยจัดกีฬารายการใหญ่ๆ ให้มาก เพราะมีประโยชน์กับการท่องเที่ยว เศรษฐกิจของประเทศ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้มีรายการระดับสูงขึ้นกลับมาแข่งขันที่ไทยให้ได้ แต่ก็ยังไม่สามารถบอกอะไรได้มากในตอนนี้" นายสุวัจน์กล่าวทิ้งท้าย