กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 29 ธันวาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,293.00-1,296.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,050 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,130 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,080 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.32 น. ของวันที่ 29/12/60)
แนวโน้มวันที่ 03 มกราคม 2561
หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และการผ่านร่างกฎหมายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ทั้งกรณีเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ และกระแสต่อต้านจากตะวันออกกลาง หลังปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศรับรองให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล รวมทั้งสถานการณ์ทวีความตึงเครียดระหว่างจีนกับไต้หวันเพิ่มขึ้น หลังจากจีนซ้อมรบใกล้ไต้หวันบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา จนประธานาธิบดีของไต้หวันเตือนถึงภัยคุกคามจากกองทัพจีนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันความตึงเครียดระหว่างประเทศชัดเจนมากขึ้น เมื่อนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวปกป้องนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ โดยระบุว่าในรอบปีที่ผ่านมามีความคืบหน้าในการควบคุมโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือและการต่อสู้กับปัญหาท้าทายจากรัสเซีย จีน และอิหร่าน ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างจับตาพัฒนาการของเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำราคาในระยะถัดไป รวมถึงการที่ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ อาจประกาศแผนการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมทั้งจับตานโยบายการเงินของเฟด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธาน เฟด แทนนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปี 2561 นอกจากนี้ยังต้องติดตามรายงานการประชุมจาก FOMC ของวันที่ 12-13 ธ.ค. 2560 ซึ่งจะมีการเปิดเผยเช้าวันที่ 4 ม.ค. 2561 โดยจับตาดูความเปลี่ยนแปลงของภาวะเงินเฟ้อเพื่อเทียบกับเป้าหมายด้านเงินเฟ้อที่มีความเหมาะสม เพื่อใช้ประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไป เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวลักษณะแกว่งตัวในกรอบ ในรูปแบบค่อยๆขยับขึ้น โดยประเมินกรอบแนวต้านที่ 1,300-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และประเมินกรอบแนวรับที่ 1,280-1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบโดยค่อยๆขยับขึ้น ให้เน้นไปที่การเข้าลงทุนระยะสั้น หลังจากราคาขยับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้สามารถเข้าซื้อบริเวณแนวรับที่ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านได้อย่างมั่นคง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรที่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดทำกำไร หรือ ตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,280 (19,700บาท) 1,273 (19,600บาท) 1,264 (19,450บาท)
แนวต้าน 1,300 (20,050บาท) 1,307 (20,150บาท) 1,320 (20,350บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,280 (19,870บาท) 1,273 (19,770บาท) 1,264 (19,630บาท)
แนวต้าน 1,300 (20,190บาท) 1,307 (20,300บาท) 1,320 (20,500บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999