กรุงเทพฯ--3 ม.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ ได้รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 มีจำนวน 6,325,468.69 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 41.67 ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้รัฐบาล 4,959,326.12 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 956,649.10 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 397,798.36 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 11,695.11 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นสุทธิ 18,644.26 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
v หนี้รัฐบาล จำนวน 4,959,326.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 27,033.79 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของหนี้รัฐบาล ดังนี้
- การกู้เงินตามแผนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 และพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2560 รวมถึงเพื่อการบริหารหนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้น 27,530.07 ล้านบาท
- การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศเพิ่มขึ้นสุทธิ 1,583.33 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การกู้ให้กู้ต่อแก่ (1) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 1,318.68 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวจำนวน 551.12 ล้านบาท สายสีม่วงจำนวน 392.09 ล้านบาท และสายสีน้ำเงินจำนวน 374.79 ล้านบาท รวมถึงโครงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางบริเวณสถานีสะพานพระนั่งเกล้า และโครงการปรับปรุงรูปแบบอาคารจอดแล้วจร แยกนนทบุรี 1 ของโครงการรถไฟฟ้าสาย สีม่วงจำนวน 0.68 ล้านบาท (2) การรถไฟแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 924.65 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น จำนวน 539.80 ล้านบาท โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า - แก่งคอย จำนวน 293.53 ล้านบาท และโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต จำนวน 91.32 ล้านบาท และ (3) การชำระคืนต้นเงินกู้ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยจำนวน 660 ล้านบาท
- การกู้เงินบาททดแทนการกู้เงินตราต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 600 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน
- การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่สอง พ.ศ. 2545 (FIDF 3) จำนวน 3,161.01 ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ
- หนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นสุทธิ 481.40 ล้านบาท เนื่องจากการเบิกจ่ายเงินกู้สกุลเงินเยน และ การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน
หนี้รัฐวิสาหกิจ จำนวน 956,649.10 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 5,732.91 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก
- หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน ลดลง 1,315.44 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่ลดลงของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และการยางแห่งประเทศไทย
- หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน ลดลง 4,417.47 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่ลดลงของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 397,798.36 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 1,715.04 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
หนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 11,695.11 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 941.58 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย และ การเบิกจ่ายเงินกู้สุทธิของสำนักงานธนานุเคราะห์
หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2560 จำนวน 6,325,468.69 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ในประเทศ 6,028,450.95 ล้านบาท หรือร้อยละ 95.30 และหนี้ต่างประเทศ 297,017.74 ล้านบาท (ประมาณ 9,024.38 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือร้อยละ 4.70 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด และหนี้สาธารณะคงค้างแบ่งตามอายุคงเหลือ สามารถแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาว 5,705,323.37 ล้านบาท หรือร้อยละ 90.20 และหนี้ระยะสั้น 620,145.32 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.80 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด
คณะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
โทร. 02 265 8050 ต่อ 5520