กรุงเทพฯ--3 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 03 มกราคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,311.10-1,321.47 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,200 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,240 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,140 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.34 น. ของวันที่ 03/01/61)
แนวโน้มวันที่ 04 มกราคม 2561
การคาดการณ์ในทางบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน ประกอบกับ ผู้กำหนดนโยบายในธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) นายอีวาลด์ โนวอทนี กล่าวต่อ หนังสือพิมพ์เยอรมนีฉบับหนึ่งว่า อีซีบีอาจจะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ ถ้าหากเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ถ้อยแถลงของนายโนวอทนีสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายเบนัวท์ เคอร์ สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งช่วยสนับสนุนการคาดการณ์เรื่องการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จนหนุนให้ยูโรแข็งค่าใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ปัจจัยดังกล่าวหนุนราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนครึ่ง หลังจากดอลลาร์อ่อนค่า ทั้งนี้ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายปีในปี 2560 นับตั้งแต่ปี 2546 ในปีที่แล้วซึ่งช่วยหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 13% ในปี 2560 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจโลกกำลังขยายตัวได้ดี กระตุ้นการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี ในวันพุธ ซึ่งดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกสามารถเคลื่อนตัวใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 591.50 ที่ทำไว้ในปลายปี 2550 หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นในช่วงเปิดตลาดต้นปี เพราะนักลงทุนคาดหวังผลลัพธ์เชิงบวกจากมาตรการปฏิรูปภาษีที่ผ่านการอนุมัตินอกจากนี้นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลของตลาดแรงงานสหรัฐ โดย ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐเดือนธ.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ในวันพฤหัสบดีนี้ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่า หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ นักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวของราคาทองคำ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานและกระแสข่าวต่างๆเพื่อใช้เป็นปัจจัยในการชี้นำทิศทางราคาทองคำ โดยนักลงทุนควรติดตามทิศทางของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,311 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,311 หรือ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,311 (19,700บาท) 1,300 (19,600บาท) 1,293 (19,450บาท)
แนวต้าน 1,328 (20,050บาท) 1,337 (20,150บาท) 1,346 (20,350บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,311 (19,870บาท) 1,300 (19,770บาท) 1,293 (19,630บาท)
แนวต้าน 1,328 (20,190บาท) 1,337 (20,300บาท) 1,346 (20,500บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999