กรุงเทพฯ--3 ม.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
เมื่อเร็วๆ นี้ ฟอร์ด ประเทศไทย จัดทริปสุดพิเศษมอบความประทับใจแห่งปี กับกิจกรรม "Extraordinary Adventureกับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์" ณ ประเทศลาวทางตอนใต้นำคณะสื่อมวลชนออกเดินทางไปกับรถเอสยูวีสมรรถนะสูงที่ได้รับการออกแบบและสร้างมาเพื่อเป็นที่หนึ่ง ด้วยเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อการขับขี่แบบออฟโรดอย่างครบครัน เพื่อมอบความมั่นใจและปลอดภัยสูงสุดในทุกสภาพเส้นทาง
หลังจากนั่งเครื่องลัดฟ้ายามเช้าตรู่จากกรุงเทพฯ สู่อุบลราชธานี จังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็นราชธานีแห่งแดนอีสาน ขบวนคาราวานฟอร์ด เอเวอเรสต์ ได้เดินทางเข้าเมืองปากเซ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็ก ก่อนมุ่งหน้าไปยังสถานที่ไฮไลท์แห่งแรกของทริป คือ น้ำตกแซปองไล โดยคณะสื่อมวลชนได้ชื่นชมความงามของธรรมชาติบนป่าเขาอันแสนเขียวชอุ่มตลอดเส้นทาง
ตลอดเส้นทางคณะสื่อมวลชนได้ร่วมพิสูจน์สุดยอดสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดของฟอร์ด เอเวอเรสต์ จากเส้นทางอันแสนท้าทายในการข้ามลำธารถึง 3 แห่ง โดยฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะด้านการขับขี่อันทรงประสิทธิภาพตามเอกลักษณ์ของฟอร์ด ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค ทีดีซีไอ วีจี เทอร์โบ (Duratorq TDCi VG Turbo) ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบ ซึ่งให้กำลังสูงสุดถึง 200 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 470 นิวตันเมตร ที่มาพร้อมระบบการขับเคลื่อน 4ล้อ อัจฉริยะ Terrain Management (i4WD with Terrain Management System – i4WD TMS) ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับรูปโหมดการขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นการขับลุยโคลน พื้นทราย หินกรวดขรุขระ รวมถึงการลุยน้ำข้ามลำธาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนให้ดียิ่งขึ้นโดยเฉพาะบนพื้นผิวถนนที่ขรุขระ ด้วยระบบล็อคเฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential (LRD) ประกอบกับความสูงจากพื้นรถถึง 225 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ระดับเดียวกัน และความสามารถในการลุยน้ำที่ความลึกสูงสุดที่ 800 มิลลิเมตร ฟอร์ด เอเวอเรสต์ จึงสามารถเอาชนะเส้นทางสุดท้าทายนี้ไปได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
ต่อมา ขบวนคาราวานฟอร์ด เอเวอเรสต์ เดินทางถึงน้ำตกแซปองไล น้ำตกอันซีนสุดตระการตาแห่งใหม่ในลาว ขณะที่แสงยามเย็นของดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจึงได้มีโอกาสชื่นชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตกและความงามของแสงที่ส่องกระทบกับละอองน้ำก่อให้เกิดรุ้งกินน้ำสวยงามสะกดทุกสายตา สมาชิกคาราวานได้อิ่มเอมกับบรรยากาศแคมปิ้งที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ ก่อนเข้าพักในเต็นท์เพื่อเตรียมตัวสำหรับการผจญภัยในวันถัดไป
ในวันที่สอง คณะสื่อมวลชนออกเดินทางไปยังน้ำตกแซพระ น้ำตกเลื่องชื่ออีกแห่งหนึ่งที่สวยงามไม่แพ้กัน แล้วจึงมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนสมบูนไชย ดอนโขง เพื่อมอบสิ่งของที่จำเป็นให้กับเด็กนักเรียนในพื้นที่ พร้อมทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกับชุมชนและเด็กนักเรียน
จากนั้น ขบวนคาราวานฟอร์ด เอเวอเรสต์ เคลื่อนผ่านเนินเขาและเส้นทางคดเคี้ยวที่มีจุดหมายปลายทางเป็นน้ำตกที่สวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศลาวทางตอนใต้ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับเส้นทางลาดชันและโค้งจำนวนมาก ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังคงสามารถฝ่าฝันทุกสภาพเส้นทางได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อการขับขี่แบบออฟโรดอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) ที่ช่วยควบคุมการขับลงเขาที่เสริมแรงเบรกในระดับความเร็วต่อเนื่อง และระบบช่วยการออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ขับรถและเผชิญกับสถานการณ์บนทางลาดชันได้อย่างมั่นใจ
สถานที่อันซีนแห่งสุดท้ายของวันที่สอง คือ น้ำตกตาดฟาน น้ำตกสูงใหญ่สองสายที่ไหลขนานลงสู่หน้าผาสูงกว่า 100 เมตร รายล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่มนานาพรรณในบริเวณอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวแถบที่ราบสูงโบโลเวน เมืองจำปาสัก ป่าแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าสายพันธุ์อนุรักษ์จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น เสือดาว เสือโคร่ง ช้างป่า ลิง และนกกว่า 300 สายพันธุ์ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมซิปไลน์ (Zip Line) หรือ โหนสลิงจิบกาแฟ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยท้าทายในแบบเอ็กซ์ตรีม ที่มอบความตื่นเต้นประทับใจเสมือนได้เป็นนกบินอยู่เหนือผืนป่าอันกว้างใหญ่
หลังจากนั้น คณะสื่อมวลชนได้แวะเยี่ยมชมวิถีชีวิตชนเผ่า "ตะโอย" ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนเผ่าที่อาศัยอยู่อย่างเรียบง่ายบริเวณใกล้เชิงเขาท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม ชาวตะโอยมีวิถีชีวิตที่น่าสนใจ ด้วยจารีตประเพณีการบูชาเจ้าอย่างเคร่งครัดและวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยชาวบ้านนิยมปลูกไม้อุตสาหกรรม ไม้ผล กาแฟ และเลี้ยงสัตว์ใหญ่ รวมถึงงานหัตถกรรมและงานผ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดเวียงจันทน์
เช้าวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ขบวนคาราวานฟอร์ด เอเวอเรสต์ ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการแวะเยี่ยมชมปราสาทหินวัดพูหรือที่ชาวลาวนิยมเรียกกันว่า ภูเกล้า โบราณสถานสำคัญของประเทศลาว ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์กร UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี 2544 โดยปราสาทหินวัดพูแห่งนี้ มีอายุมากกว่าหนึ่งพันปีและมีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบเขมร สร้างขึ้นจากหินทรายและอิฐ ทั้งยังเคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงแหล่งอารยธรรมโบราณยาวนานถึง 3 สมัย ได้แก่ อาณาจักรเจนละ อาณาจักรขอม และอาณาจักรล้านช้าง
"ทุกเส้นทางและสถานที่ทางธรรมชาติต่างๆ ตลอดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นเส้นทางพิเศษที่ฟอร์ดได้คัดสรรมาเป็นอย่างดี เพื่อมอบประสบการณ์ความประทับใจที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์คุณภาพระดับโลก ฟอร์ดให้ความสำคัญกับการนำเสนอรถยนต์สมรรถนะสูง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อการขับขี่ในทุกรูปแบบบนทุกสภาพเส้นทาง เพื่อมอบความมั่นใจและปลอดภัยสูงสุดตลอดทุกการเดินทาง" นางสาวศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
"ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ถือเป็นรถเอสยูวีสมรรถนะสูงที่สร้างมาเพื่อเป็นที่หนึ่ง และความภาคภูมิใจของเราที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถลุยไปได้ในทุกเส้นทาง เปิดโลกแห่งการผจญภัยไร้พรหมแดน และตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ที่ไร้ขีดจำกัดได้อย่างแท้จริง" นางสาวศุภรางศุ์ กล่าวเสริม