กรุงเทพฯ--4 ม.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG ย้ำพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง พร้อมขยายการลงทุนตามแผนงานที่วางไว้ ระบุช่วงปลายปีที่ผ่านมาปริมาณคนไข้ทั้งไทยและชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ขณะที่ รพ.Welly Hospital ในเมืองเวยไห่ ประเทศจีน มีผลตอบรับดี หลังเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมคาดโครงการลงทุนต่างๆ เช่น การร่วมทุนโรงพยาบาล Ar Yu International Hospital ในเมียนมา, การพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ ธนบุรี (ถนนบำรุงเมือง) จะเริ่มทยอยเปิดดำเนินการในปี 61
นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แนวคิด 'ปกป้องดูแลความสุขและสุขภาพคนไทยทุกช่วงชีวิต' (Lifetime Health Guardian For All) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ขอให้ความมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมขยายธุรกิจในไทยและต่างประเทศตามแผนงานที่วางไว้ เช่น การพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ ธนบุรี (ถนนบำรุงเมือง), โครงการ JIN Wellbeing County ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงวัยและให้บริการทางการแพทย์อย่างครบวงจรในย่านรังสิต, การร่วมทุนในบริษัท Aryu International Healthcare Company Limited พัฒนาโรงพยาบาล Ar Yu International Hospital ในประเทศเมียนมา เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง โดยจะใช้จุดแข็งของ THG ที่มีความเชี่ยวชาญการรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรในราคาที่ประชาชนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ ซึ่งมีความแตกต่างจากคู่แข่งขันที่เน้นธุรกิจโรงพยาบาลเป็นหลักเพื่อสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน
ทั้งนี้ แนวโน้มการดำเนินงานในปี 2560 ของโรงพยาบาลธนบุรี และโรงพยาบาลธนบุรี 2 มีแนวโน้มที่ดีทั้งรายได้และจำนวนคนไข้ เนื่องจากมีความมั่นใจในทีมแพทย์และความเชี่ยวชาญในการตรวจรักษาตลอดจนเทคโนโลยีด้านการรักษาที่ทันสมัย ซึ่งคาดจะส่งผลดีต่อผลภาพรวมผลการดำเนินงานของ THG
ส่วนการดำเนินงานของโรงพยาบาล Welly Hospital ในเมืองเวยไห่ ประเทศจีน ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศที่ได้รับความนิยมจากผู้เกษียณอายุเข้ามาพักอาศัยเป็นจำนวนมาก โดยดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท Weihai Welly Hospital Company Limited ซึ่ง THG ถือหุ้นใหญ่ 58% และนับเป็นโรงพยาบาลของผู้ประกอบการไทยแห่งแรกที่ได้รับใบอนุญาตสถานพยาบาลในประเทศจีน หลังจากที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลเต็มรูปแบบ และเปิดดำเนินการโรงพยาบาลอย่างเต็มรูปแบบเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความพร้อมในการให้บริการผู้ป่วยได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเครื่องมือที่มีความทันสมัย โดยพบว่าคนไข้ที่เข้าใช้บริการมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแผนกผู้ป่วยในที่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นในระดับที่น่าพอใจ
"ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่เราดำเนินธุรกิจในการดูแลรักษาพยาบาลภายใต้แบรนด์โรงพยาบาลธนบุรี ได้รับความเชื่อถือจากประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ เนื่องจากมีความมั่นใจในทีมแพทย์และเทคโนโลยีการรักษา และด้วยฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น หลัง IPO ทำให้ขีดความสามารถการแข่งขันดีขึ้น มีต้นทุนทางการเงินลดลงหลังชำระหนี้สถาบันการเงิน ประกอบกับแผนดำเนินงานในโครงการลงทุนต่างๆ มั่นใจว่าจะเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้" นพ.บุญ กล่าว
นพ.บุญ กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินงานในปี 2561 จะได้รับปัจจัยสนับสนุนการเติบโตจากโครงการลงทุนใหม่ๆ ของทางโรงพยาบาล ที่คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในปีนี้และพร้อมให้บริการแก่ประชาชนในปีนี้ เช่น โรงพยาบาล Ar Yu International Hospital ขนาด 200 เตียง ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ที่มีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มเปิดดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบประมาณไตรมาส 2/61 โดยบริษัทฯ มีแผนพิจารณาเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจากเดิม 10% เป็น 40% ในบริษัท Aryu International Healthcare Company Limited ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการดังกล่าว เนื่องจากมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีในประเทศเมียนมา จากความต้องการด้านการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ โครงการพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ ธนบุรี (ถนนบำรุงเมือง) เพื่อเป็นศูนย์รวมบริการด้านสุขภาพ คาดว่าจะพัฒนาแล้วเสร็จในปีนี้เช่นกัน โดยจะมีบริการที่ครอบคลุมทั้งแผนกตรวจรักษาผู้ป่วยนอก ห้องพักรักษาตัวสำหรับผู้ป่วยพักฟื้น ตลอดจนแผนกการรักษาอื่นๆ อาทิ แผนกสำหรับผู้มีบุตรยาก แผนกทางเดินอาหารและตับ ฯลฯ เพื่อรองรับผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงพักฟื้นที่ไม่ต้องรับการดูแลที่ซับซ้อนจาก รพ.ธนบุรี รพ.ในเครือข่าย และ รพ.ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง จะส่งผลดีต่อ รพ.ธนบุรี สามารถรับผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้น ฯลฯ ขณะที่คลินิกเฉพาะทางสำหรับผู้ป่วยนอก เช่น แผนกตรวจและดูแลสุขภาพ แผนกกายภาพบำบัด แผนกชะลอวัย คาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการภายในปี 2561 เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะใช้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพเพื่อมองหาโอกาสการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีศักยภาพและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี เพื่อกระจายการลงทุนและเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในการรูปแบบการร่วมทุน การเป็นที่ปรึกษา และการบริหารกิจการโรงพยาบาล ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว