กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--ก.พลังงาน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หวั่นประชาชนได้รับความเดือดร้อน ไม่เห็นด้วยที่ผู้ประกอบการรถยนต์โดยสารรถร่วมบริการขอปรับขึ้นราคาค่าโดยสารประจำทางอีก 8 สตางค์ต่อกิโลเมตร เพราะราคาน้ำมันดีเซลที่สูงขึ้น ยังต่ำกว่าระดับปี 2549 ที่ผ่านมา
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการรถยนต์โดยสารทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอปรับขึ้นราคาค่าโดยสารรถร่วมบริการ 8 สตางค์ต่อกิโลเมตร หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกทำสถิติสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั้นไม่สูงเท่ากับปี 2549 ที่ผ่านมา ที่มีสถิติราคาขายปลีกนำมันดีเซล ปตท.อยู่ที่ 27.94 บาทต่อลิตร ในขณะที่ผู้ค้ารายอื่นอยู่ที่ 28.34 บาทต่อลิตร
รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ปีนี้ราคาขายปลีกน้ำมันทุกประเภทได้มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในปีนี้อยู่ที่ 26.24 บาทต่อลิตร โดยยังถูกกว่าในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานก็ได้ติดตามดูสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด พร้อมได้ออกมาตรการรณรงค์และส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานทางเลือกเช่น น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ไบดีเซล (B5) และNGV ซึ่งจะทำให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
“ ถึงแม้ว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวนตลอดเวลาและส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศต้องรับตัวสูงขึ้นทุกประเภท แต่ก็ไม่สูงเท่ากับปีที่แล้ว ดังนั้นผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร จึงไม่สมควรที่จะปรับขึ้นค่าโดยสารรถยนต์ ในช่วงนี้ เพราะจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนให้ได้รับความเดือดร้อน ” นายปิยสวัสดิ์ กล่าว