กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
ไทยสเตนเลสสตีลผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องครัวสเตนเลสสตีลและเครื่องครัวเคลือบสารกันติดคุณภาพ ตรา "ซีกัล" (Seagull) และตรา "จรวด" (Rocket) เดินหน้าสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับกระทะเคลือบสารกันติด ทั้งวิธีผลิตมาตรฐานสารเคลือบกันติด ด้วยการเผยแพร่คลิปผ่านสื่อออนไลน์ ชูมาตรฐานการผลิตระดับสากลมัดใจผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศตอกย้ำผู้นำตลาดเครื่องครัวเคลือบสารกันติด
นายอรุณ เรืองจรุงพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสเตนเลสสตีล จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กระทะเคลือบสารกันติด หรือ กระทะนอนสติ๊ก ถือเป็นหนึ่งในสินค้าหลักที่สร้างยอดขายให้บริษัทฯ โดย ซีกัล สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเครื่องครัวเคลือบสารกันติดเป็นอันดับหนึ่ง นอกจากเป็นผู้นำตลาดในประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังได้ส่งออกเครื่องครัวเคลือบสารกันติดไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ได้แก่ ลาว พม่า กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเชีย ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีดังเช่นตลาดในไทย
"สิ่งที่ทำให้ซีกัลก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดกระทะเคลือบสารกันติดของไทยนั้น เพราะบริษัทฯ มีฐานการผลิตเครื่องครัวภายในประเทศที่ได้มาตรฐานสากลและได้รับการรับรองมาตรฐานจากบริษัทผู้ผลิตสารเคลือบกันติดชั้นนำระดับโลกทั้ง Chemours และ Whitford ซึ่งผ่านการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) และด้วยประสบการณ์การผลิตเครื่องครัวที่มีมานานกว่า 46 ปี ทำให้บริษัทฯเข้าใจไลฟ์สไตล์การทำอาหารและความต้องการของผู้บริโภคคนไทย ดังนั้นเราจึงสามารถพัฒนากระทะเคลือบสารกันติดได้ตรงกับความต้องการในการใช้งาน ตั้งแต่การเลือกวัสดุและกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ตลอดจนการเลือกใช้สารเคลือบกันติดคุณภาพระดับโลก จึงทำให้กระทะเคลือบสารกันติดจากซีกัลครองแชมป์ความเป็นผู้นำตลาด
ในไทยและเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก" นายอรุณ เรืองจรุงพงศ์ กล่าว
ปัจจุบันกระทะเคลือบสารกันติดจากซีกัล มีให้เลือกหลากหลายประเภท ประกอบด้วย กระทะทรงลึก กระทะทรงตื้น และกระทะย่าง มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 18 – 36 เซนติเมตร ซึ่งในบรรดากระทะนอนสติ๊กทั้งหมดนั้น ขนาด 22 เซนติเมตรทรงลึกถือเป็นขนาดที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคและมีแน้วโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะความสะดวกในการใช้งาน เน้นการทำอาหารจานเล็ก จานเดียว อันเนื่องมาจากการพักอาศัยในคอนโด และสังคมคนโสดที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมี หม้อนอนสติ๊ก และกระทะเคลือบลายหินอ่อน (Marble Coating) ที่ใช้การพ่นชั้นของสารเคลือบหลายชั้นจนเกิดลวดลายคล้ายหินอ่อน ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างดีเยี่ยม
"ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการผลิตและการเลือกซื้อกระทะเคลือบสารกันติดแก่ผู้บริโภค ไทยสเตนเลสสตีล ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการผลิตกระทะเคลือบสารกันติด จึงได้จัดทำคลิปให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระทะเคลือบสารกันติด โดยคลิปนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจเกี่ยวกับกระทะเคลือบสารกันติดได้ชัดเจนขึ้น พร้อมนำเสนอกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล และข้อแนะนำในการเลือกซื้อกระทะเคลือบสารกันติด" นายอรุณ เรืองจรุงพงศ์ กล่าวเสริม
โดยคลิปวีดีให้ความรู้เกี่ยวกับกระทะนอนสติ๊กนั้นแบ่งเป็น 4 ตอน ได้แก่ 1.กระทะเคลือบสารกันติดคืออะไร ซึ่งผู้บริโภคจะเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของกระทะเคลือบสารกันติดได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น 2.กระบวนการผลิตกระเคลือบสารกันติด ในตอนนี้ผู้บริโภคจะได้ทราบถึงกระบวนการผลิตกระทะเคลือบสารกันติดอย่างละเอียดในทุกๆ ขั้นตอน 3. วิธีการทดสอบคุณภาพกระทะเคลือบสารกันติด จากแล็บทดสอบตามมาตรฐานสากล และ 4.วิธีการการเลือกซื้อกระทะเคลือบสารกันติด เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจซื้อกระทะเคลือบสารกันติดเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยผู้สนใจสามารถคลิกเข้าไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ YouTube channel : Seagull Brand หรือคลิกชมได้ที่ https://youtu.be/kiNYcL--4EM
บริษัท ไทยสเตนเลสสตีล จำกัด ให้ความสำคัญในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เพื่อนำมาซึ่งเครื่องครัวคุณภาพ ตั้งแต่การขึ้นรูปเครื่องครัวด้วยกระบวนการ Forging press โดยการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ด้วยเครื่องฟอร์จจิ้งขนาด 5,000 ตัน เพื่อให้ได้เครื่องครัวที่มีรูปทรงตามต้องการและมีความทนทานและหนาแน่นสูง ทำให้ผลิตภัณฑ์คงรูป และไม่บุบหรือบิดเบี้ยวง่าย และใช้การเคลือบผิวแบบ 3-ways Dimension (3D) และ เทคโนโลยีการพ่นสารเคลือบแบบ Full High Density (Full HD) ซึ่งการพ่นด้วยเทคโนโลยีแบบ FULL HD ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มลูกค้าตลาดพรีเมี่ยม
โดยปกติการเคลือบสารกันติด บนกระทะจะมีจำนวนชั้นสารเคลือบหลัก 3 ชั้นได้แก่ Primer Coat ชั้นนี้เป็นการพ่นสารเคลือบกันติดชั้นแรกเพื่อเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะระหว่างสารเคลือบและผิวกระทะ ต่อด้วยชั้น Mid Coat เป็นการพ่นสารเคลือบกันติดในชั้นกลาง ซึ่งชั้นนี้ผู้ผลิตสามารถเพิ่มส่วนประกอบที่เสริมความแข็งแกร่งของสารเคลือบที่เรียกว่า Reinforcing เพื่อเพิ่มความทนทานให้กับสารเคลือบมากขึ้น และปิดท้ายด้วยชั้น Top Coat ด้วยการเคลือบผิวกระทะด้วยสารเคลือบกันติด PTFE (Polytetrafluoroethylene) เพื่อให้เกิดความลื่นของผิวกระทะสูงสุด ซึ่งในชั้นนี้อาจพ่นสารเคลือบกันติดคุณภาพสูง เช่น PFA (Perfluoroalkoxy) แต่อย่างไรก็ตามจำนวนชั้นของสารเคลือบ อาจเพิ่มมากขึ้นโดยขึ้นอยู่กับคุณสมบัติพิเศษ เช่น ลวดลาย ความคงทน และการกระจายความร้อน โดยกระทะเคลือบลายหินอ่อน (Marble Coating) ก็เป็นการพ่นชั้นของสารเคลือบหลายชั้นจนเกิดลวดหลายคล้ายหินอ่อน
นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในการตรวจสอบคุณภาพของกระทะเคลือบสารกันติดก่อนออกสู่ตลาด โดยมีแล็บทดสอบคุณภาพของเครื่องครัวเคลือบสารกันติดตามมาตรฐานสากล ยกตัวอย่างขั้นตอนการทดสอบที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายอาทิ
1. การวัดความหนาของสารเคลือบกันติด (Thickness Testing) ให้ได้ตามมาตรฐานโดยสารเคลือบกันติดต้องมีความหนาอยู่ระหว่าง 20 – 80 ไมครอน ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเคลือบ โดยความหนาของสารเคลือบที่เกินมาตรฐาน ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ถึงความคงทน หากพ่นความหนาน้อยหรือมากเกินไป จะทำให้คุณภาพของสารเคลือบลดลง
2. การตรวจสอบการยึดติดของสารเคลือบกันติด โดยการตัดผิวของสารเคลือบกันติด (Cross Cut Testing) โดยใช้ Cross-hatch test template แนวตั้ง 18 มิลลิเมตร ตัดกับแนวนอน 18 มิลลิเมตรเท่ากัน จำนวน 100 ช่อง และใช้เทปกาวตามมาตรฐานติดและลอกออก สารเคลือบต้องไม่หลุดล่อนตามมาตรฐานสากล
3. การทดสอบการติดของอาหาร ( Release Testing ) ด้วยการทำอาหารต่อเนื่อง 250 แผ่น โดยไม่ใช้น้ำมัน อาหารต้องไม่ติดกระทะ ซึ่งผลทดสอบที่ได้ อาจจะมีจำนวนมากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสารเคลือบ
4. การทดสอบความคงทนของสารเคลือบด้วยการขัด (Abrasion Testing) โดยใช้แผ่นสก๊อตไบร์ทที่ถ่วงน้ำหนัก 5 กิโลกรัม ขัดบนผิวกระทะ จำนวน 90,000 -100,000 รอบ ซึ่งจำนวนรอบของการขัดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับคุณภาพของสารเคลือบ
บริษัทให้ความสำคัญในควบการคุมมาตรฐานการผลิตกระทะเคลือบสารกันติดและเครื่องครัวเคลือบสารกันติดทุกชนิดภายใต้มาตรฐานสากล ตั้งแต่การคัดเลือกวัสดุและสารเคลือบกันติด รวมถึงกรรมวิธีในการผลิต เทคโนโลยีในการพ่นสารเคลือบกันติด โดยคำนึงถึงคุณภาพของเครื่องครัว และความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นอันดับแรก
เนื่องจากคุณภาพและความปลอดภัยของสารเคลือบ ไม่สามารถบ่งบอกได้ด้วยตาเปล่าหรือแค่การสัมผัส ดังนั้นผู้บริโภคควรเลือกกระทะเคลือบสารกันติดจากบริษัทผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิต โดยสามารถสังเกตุตราสัญญาลักษณ์ หรือ หนังสือรับรองความปลอดภัยของสารเคลือบที่ออกโดยองค์การอาหารและยาจากประเทศชั้นนำ เช่น สหรัฐอเมริกา (U.S.FDA) ญี่ปุ่น (JFSL) เยอรมันนี (German LFGB) เป็นต้น และสังเกตุตราสัญลักษณ์ของสารเคลือบกันติดจากผู้ผลิตชั้นนำ โดยโรงงานผู้ผลิตกระทะเคลือบสารกันติดที่ได้มาตรฐานจะได้รับอนุญาตให้สามารถติดสติ๊กเกอร์ตราสัญลักษณ์ของสารเคลือบบนกระทะ เพื่อเป็นการการันตีคุณภาพของสารเคลือบ โดยผู้บริโภคสามารถสังเกตุสติ๊กเกอร์ตราสัญลักษณ์ของสารเคลือบจากบริษัทผู้สารเคลือบชั้นนำที่ทาง บริษัท ไทยสเตนเลสสตีล จำกัด เลือกใช้ ดังนี้ จาก Chemours ประกอบด้วย Teflon Classic และ Teflon Platinum และจาก Whitford ประกอบด้วย Xylan, Quantum2, Eterna และ Eclipse ซึ่งสารเคลือบแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติด้านความลื่นและความทนทานต่อรอยขูดขีดแตกต่างกัน ดังนั้นผู้บริโภคควรเลือกกระทะนอนสติ๊กที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การทำอาหารของตน
"บริษัทฯ มั่นใจว่าตลาดรวมกระทะเคลือบสารกันติดมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากเทรนด์การดูแลสุขภาพและผู้บริโภคมีแนวโน้มทำอาหารเองสูงขึ้น โดยค้นหาสูตรการทำอาหารสุขภาพและการทำอาหารทานเองง่ายๆในอินเตอร์เน็ต และกระทะเคลือบสารกันติดก็ได้เข้ามาตอบโจทย์การทำอาหารสุขภาพได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสะดวกในการใช้งาน อาหารไม่ติดกระทะ และล้างออกง่าย และดีต่อสุขภาพเพราะใช้น้ำมันน้อย หรือ ไม่ใช้น้ำมัน อีกทั้งบริษัทยังเป็นผู้ผลิตกระทะเคลือบสารกันติดที่ได้คุณภาพมาตรฐานระดับโลก ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการผลิตและความทนทานของสารเคลือบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำอาหารของคนไทยได้ดีกว่า พร้อมบริษัทฯมีการแผนการให้ความรู้เกี่ยวกับกระทะเคลือบสารกันติดมากขึ้น คาดว่าเมื่อผู้บริโภคมีความเข้าใจเกี่ยวกับกระทะเคลือบสารกันติด และรู้จักวิธีการใช้งานและบำรุงรักษาที่ถูกต้อง จะทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้เครื่องครัวเคลือบสารกันติดมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งบริษัทฯ มียังช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุมทั้ง โมเดิร์นเทรด ซีกัลสโตร์ ซีกัลเอาท์เล็ท และซีกัลช็อป รวมถึงร้านจำหน่ายเครื่องครัวทั่วประเทศ นอกจากนี้แล้วลูกค้ายังสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางทางออนไลน์ได้อีกด้วย จึงเชื่อมั่นว่าจะช่วยดันตลาดรวมเครื่องครัวเคลือบสารกันติดเติบโตมากกว่า 50 % ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า" นายอรุณ เรืองจรุงพงศ์ กล่าวสรุป