กรม ปภ. เตือนคนกรุง ริมฝั่งเจ้าพระยารับมือน้ำทะเลหนุนสูง

ข่าวทั่วไป Thursday October 25, 2007 10:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เตือนประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะช่วงวันที่ 27-29 ตุลาคมนี้ ระดับน้ำทะเลหนุนสูง อาจส่งผลให้บ้านเรือน
นอกเขตแนวคันกั้นน้ำได้รับผลกระทบ ควรซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างให้แข็งแรง ขนย้ายทรัพย์สินให้สูงขึ้นจากเดิม 20 ซม.เพื่อป้องกันความเสียหาย พร้อมเฝ้าระวังและติดตามเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น โดยปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ 2,281 ลบ.ม./วินาที และปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท 2,518 ลบ.ม./วินาที
สำหรับปริมาณน้ำสูงสุดที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในขณะนี้มีจำนวน 2,644 ลบ.ม./นาที และได้ไหลลงสู่พื้นที่ทางตอนล่างที่อำเภอ บางไทรแล้ว ทำให้ปริมาณน้ำเหนือลดลง แต่เนื่องจากระดับน้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้งในช่วงวันที่ 27 -29 ตุลาคมนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานให้กรมชลประทานควบคุมการระบายน้ำเพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดภาคกลางตอนล่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมทั้งประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณนอกแนวคันกั้นน้ำและผู้ประกอบการร้านอาหารริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ควรตรวจสอบสภาพความแข็งแรงของบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างในบริเวณดังกล่าว หากพบว่าชำรุดหรือไม่แข็งแรงให้รีบซ่อมแซมแก้ไขทันที เพราะอาจได้รับอันตรายจากแรงกระแทกของคลื่นแม่น้ำเจ้าพระยาจนอาจพังลงมาได้ นอกจากนี้ควรขนย้ายทรัพย์สินของมีค่า อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้อยู่ในพื้นที่สูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 20 ซม.เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน และจัดเตรียมกระสอบทรายทำแนวคันกั้นน้ำ รวมทั้ง ขอความร่วมมือผู้ขับเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาให้ลดความเร็วในขณะขับขี่ผ่านบ้านเรือนประชาชน เพื่อป้องกันมิให้เกิดคลื่นน้ำ สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน สำหรับผู้เลี้ยงปลาในกระชัง ตามริมฝั่งแม่น้ำให้เฝ้าระวังการขึ้นลงของระดับน้ำ ดูแลเชือกที่ใช้โยงกับกระชังเลี้ยงปลาบนฝั่งกับแม่น้ำไม่ให้ตึงหรือหย่อนจนเกินไป เพราะอาจทำให้กระชังเลี้ยงปลาเสียหายได้ พร้อมทั้งให้ติดตามปริมาณการไหลของน้ำจากกรมชลประทาน ติดตามการขึ้น-ลงของน้ำจากกรมอุทกศาสตร์ และหมั่นติดตามคำพยากรณ์อากาศ และคำประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดและควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด สำหรับการเตรียมการป้องกันในเบื้องต้น
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งจากน้ำทะเลหนุนสูง ตลอด 24 ชม.แล้ว สุดท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดประสบความเดือดร้อนจากสาธารณภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ