กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 08 มกราคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,314.40-1,322.13 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,170 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,180 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.33 น. ของวันที่ 08/01/61)
แนวโน้มวันที่ 09 มกราคม 2561
คาดการณ์ถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ ยังคงเป็นปัจจัยกดดันการขยับขึ้นของราคาทองคำ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เฟดบ่งชี้ว่า เฟดยังคงมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยนางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ผู้ว่าเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ให้สัมภาษณ์ในวันศุกร์ว่า เธอคาดถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยราว 4 ครั้งในปีนี้ ในขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐกระเตื้องขึ้น และการว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่นายจอห์น วิลเลียมส์ ผู้ว่าการเฟดสาขาซาน ฟรานซิสโกให้สัมภาษณ์ในวันเสาร์ว่า เฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ เมื่อพิจารณาถึงประเด็นที่ว่า เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว จะได้แรงหนุนจากการลดภาษี และ เฟดสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากถ้าจำเป็น ซึ่งสอดคล้องกับกรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2561 ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น แม้ว่าข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ของสหรัฐอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ โดยดอลลาร์ร่วงลงแต่ก็สามารถฟื้นตัวขึ้นในช่วงสั้นๆ อย่างไรก็ตามราคาทองคำอ่อนตัวลงไม่มาก ซึ่งราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มสดใส หลังเดินหน้าขึ้นรายสัปดาห์เป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นการเดินหน้าต่อเนื่องสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 13% ในปี 2560 เมื่อเทียบเป็นรายปี ค่าเงินบาทระหว่างวันแข็งค่าทดสอบ 31.99 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าสุดในรอบกว่า 32 เดือน ซึ่งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหารือกับ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. โดยใช้ระยะเวลาหารือเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ขณะที่นักลงทุนจับตากาเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามภายหลังการหารือ นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. เปิดเผยว่า เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันตามปกติ ในเรื่องเศรษฐกิจและการเงิน เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นอีกครั้งบริเวณแนวต้าน 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ ก็จะเกิดแรงขายออกมาเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,311 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,311 (19,950บาท) 1,302 (19,800บาท) 1,293 (19,700บาท)
แนวต้าน 1,328 (20,250บาท) 1,337 (20,400บาท) 1,346 (20,550บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,311 (20,090บาท) 1,302 (19,950บาท) 1,293 (19,810บาท)
แนวต้าน 1,328 (20,360บาท) 1,337 (20,500บาท) 1,346 (20,630บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999