กรุงเทพฯ--10 ม.ค.--บี.กริม
โตชิบารุกตลาด 2018 เปิดตัวเครื่องปรับอากาศ VRF Generation ใหม่ล่าสุด รุ่น SMMS-7 และ MiNi SMMS-7 โชว์นวัตกรรมอันล้ำสมัยและใช้เทคโนโลยีแบบฉบับของญี่ปุ่น มีฐานการผลิตแห่งเดียวในประเทศ ไทย ตั้งเป้าเติบอีก 100 % ในปีนี้
โตชิบาเปิดศักราชใหม่ด้วยการนำเสนอเครื่องปรับอากาศล่าสุดพร้อมกัน 2 รุ่น ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย กับระบบ VRF ( Variable refrigerant flow ) ในแบบฉบับของญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตแห่งเดียวในประเทศไทย คุณภาพระดับ World Class ที่ประหยัดไฟสูงสุด 24 % สามารถตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายอดิศักดิ์ รัมมณีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ระบบ VRF ( Variable refrigerant flow ) แบรนด์ Toshiba รุ่น SMMS-7 และ MiNi SMMS-7 ด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัยและใช้เทคโนโลยีแบบฉบับของญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตแห่งเดียวในประเทศไทย และพร้อมส่งออกไปกว่า 120 ประเทศทั่วโลก คุณภาพระดับ World Class ที่ประหยัดไฟสูงสุด เหมาะกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศในกลุ่ม AEC ตั้งเป้าเติบอีก 100 % ในปีนี้
นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดรวมของเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ในปี 2017 มีทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท หรือเติบโต 15 % และหลังจากเปิดตัวสินค้าใหม่แล้วคาดว่ารายได้บริษัทฯ จะเติบโตอีกเท่าตัว หรือจาก 5% เป็น 10 % ในปี 2018 โดยบริษัทฯ จะเริ่มบุกตลาดด้วยการโรดโชว์สินค้าในหัวเมืองใหญ่ อาทิ เชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่น หาดใหญ พัทยา ระยอง และพิษณุโลก โดยจับตลาดกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร โรงพยาบาล คอมมิวตี้มอล ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ อาคารพาณิชย์สูง 10-15 ชั้น ที่อยู่อาศัยขนาด 300 ตารางเมตรขึ้นไป
โตชิบา SMMS-7 เหมาะกับอาคาร ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของเครื่องปรับอากาศที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยความต้องการของตลาดในภูมิภาคนี้ถูกผลักดันจาก 3 กระแสหลักๆ คือ การประหยัดพลังงาน การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความต้องการของนโยบายอาคารเขียว ซึ่งจะตอบสนองการพัฒนาและการเจริญเติบโตของเมืองต่างๆ มีการคาดการณ์ว่า 50% ของจำนวนประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในเมืองภายในปี 2025 นอกจากนี้ บริษัท ฯ มีความภูมิใจที่จะนำเสนอ เครื่องปรับอากาศรุ่น MiNi SMMS-7 เหมาะกับคอนโดมิเนียบม ซึ่งมีความสามารถในการทำความเย็นขนาด 4HP ถึง 6HP และสามารถทำงานเมื่ออุณหภูมิภายนอกสูงถึง 50 องศาเซลเซียสได้
มร. ไททัส ยู กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูไนเต็ด เทคโนโลยี –ไคลเมท คอนโทรล แอนด์ ซีเคียวริตี้ กลุ่มภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดตัวของสินค้าใหม่ที่ตอบสนองความต้องการให้กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ เป็นการเน้นย้ำความรับผิดชอบของเราที่จะพัฒนาด้านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าของเราที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การเพิ่มการลงทุนในกิจการด้านอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศไทย และการอยู่ใกล้กับกลุ่มลูกค้าของเรานี้ยังทำให้มั่นใจได้อีกว่าเราอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดเพื่อการเพิ่มมูลค่าในพื้นที่การผลิตนี้ เช่น การผลิตได้ตามความต้องการของลูกค้า การลดระยะเวลา และต้นทุนในการผลิตได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ จากการรวมตัวของธุรกิจเครื่องปรับอากาศระหว่างโตชิบาและแคเรียร์ในปี 1999 ทำให้เครือข่ายของบริษัท แคเรียร์ทั่วโลก สามารถจำหน่ายเครื่องปรับอากาศโตชิบาได้นับจากนั้น โดยโตชิบาระบบ VRF ถูกออกแบบและสร้างขึ้นสำหรับใช้ในอาคารต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้มีการประหยัดพลังงานที่ดีที่สุด ทนทานต่อการใช้งานมากที่สุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับตลาดเครื่องปรับอากาศที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โตชิบาระบบ VRF จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับอาคารขนาดกลาง ที่มีการใช้งานอย่างหลากหลาย และสามารถควบคุมอุณหภูมิในแต่ละโซนได้อย่างเป็นอิสระ เช่น อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล และโรงแรมต่างๆ ระบบ VRF สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของอาคารเหล่านี้ด้วยเครื่องปรับอากาศที่มีการประหยัดพลังงาน สามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว และใช้งานง่ายกว่าระบบอื่นๆ ทั่วไป
ทางด้านจุดเด่นที่สำคัญของ โตชิบา SMMS-7 คือ ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในสภาพอากาศร้อนชื้น มีประสิทธิภาพในการทำความเย็น และสามารถประหยัดไฟใน EER ที่สูงที่สุด 4.82 (Full load) และ 7.27 (50% Part load) แผงระบายความร้อนในคอนเดนเซอร์ ได้ถูกออกแบบขึ้นใหม่ให้ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นจากระบบเดิม
นอกจากนี้ ยังได้ออกแบบการจัดการของระบบน้ำมันได้ถูกออกแบบขึ้นใหม่ เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์ในเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่นี้ เราได้แยกเซอร์กิตของน้ำมันในห้องเครื่องออกจากระบบการระบายความร้อน จึงทำให้เราสามารถลดโอกาสที่จะเกิดการปนเปื้อนของสารทำความเย็นจึงทำให้คอมเพรสเซอร์มีอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น และด้วยระบบ Smart Manager เป็นเครื่องมือที่จะทำให้ช่างเทคนิคสามารถตรวจเช็คระบบการทำงานต่างๆ ของเครื่องปรับอากาศรุ่นนี้ได้ดียิ่งขึ้น ช่างเทคนิคสามารถวินิจฉัยอาการ ค้นหาต้นตอของปัญหา ผ่านระบบซอฟแวร์ของ Smart Manager ได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการออกแบบระบบการทำความเย็นใหม่ ทำให้เครื่องปรับอากาศรุ่นนี้สามารถทำความเย็นได้มากขึ้น และสามารถลดการใช้สารทำความเย็นได้ 20% จากรุ่นเดิม และลดขนาดของเครื่องปรับอากาศให้เล็กลง 24% จากรุ่นเดิม จึงสามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยของอาคารได้มากขึ้น
หากต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการของแคเรียร์เพิ่มเติม กรุณาเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ คลิกที่นี่ www.carrier.com.sg/.