กรุงเทพฯ--10 ม.ค.--กรมส่งเสริมการเกษตร
กรมส่งเสริมการเกษตรเตือนเกษตรกรชาวสวนมังคุดระวังการเข้าทำลายของเพลี้ยไฟในช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว แนะหมั่นสำรวจสวนมังคุดอย่างสม่ำเสมอ
นายประสงค์ ประไพตระกูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศแห้ง ฝนเริ่มทิ้งช่วง เตือนให้เกษตรกรชาวสวนมังคุดในภาคตะวันออกที่มังคุดอยู่ในระยะแตกใบอ่อน ออกดอก จนถึงระยะติดผลอ่อน ซึ่งเป็นระยะที่ดึงดูดเพลี้ยไฟเข้ามาทำลายมากที่สุด เฝ้าระวังป้องกันการระบาดของเพลี้ยไฟ (แมลงขนาดเล็ก ๐.๗ – ๐.๘ มิลลิเมตร เคลื่อนไหวเร็ว) ที่จะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ดอกมีรอยแผลสีน้ำตาลกร้าน ดอกร่วง หรือยอดผิวของผลมังคุดเป็นขี้กลาก ผิวลาย มียางไหลและอาจทำให้ผลร่วง ส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของผลผลิตมังคุดได้ จึงแนะนำให้เกษตรกรหมั่นสำรวจสวนมังคุดอย่างสม่ำเสมอ โดยสุ่มเคาะช่อดอกบนกระดาษขาว
รองอธิบดีฯ กล่าวถึงวิธีการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟมังคุดว่า ควรสำรวจสวนมังคุดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และใช้กับดักกาวเหนียวสีเหลืองขนาด 24 x 26 นิ้ว จำนวน 4 กับดักต่อต้น ติดตั้งในสวนมังคุดที่เริ่มแตกใบอ่อน นอกจากนี้ การใช้ศัตรูธรรมชาติ ได้แก่ เพลี้ยไฟตัวห้ำ และด้วงเต่าตัวห้ำ ช่วยป้องกันการระบาดได้ หากพบการระบาดที่ไม่รุนแรงให้พ่นด้วยน้ำเปล่าเพื่อให้เกิดความชื้น ทุก ๒ - ๓ วัน สำหรับการระบาดรุนแรงควรพ่นด้วยสารเคมีกำจัดแมลงให้ทั่วถึงทั้งลำต้น มิเช่นนั้นแมลงจะเคลื่อนย้ายหลบซ่อนไปยังบริเวณที่พ่นไม่ถึง นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงการปรับละอองฝอยหัวฉีด และระยะเวลาการพ่นด้วย โดยเกษตรกรสามารถขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ สำนักงานเกษตรจังหวัด เพื่อเตรียมการป้องกันกำจัดก่อนเกิดการระบาดรุนแรงได้