กรุงเทพฯ--10 ม.ค.--บีอาร์จี กรุ๊ป
สมาคมนำเข้าฯ วอนรัฐแจงนโยบายล่วงหน้า มุ่งปรับกระบวนทัพรับปี'61 หวังตลาดรถยนต์นำเข้าโต หลังเผชิญวิกฤตปัญหายอดขายปี'60 หดตัวรุนแรง ส่งผลผู้ประกอบการล้มละลาย ผู้บริโภคซื้อรถแพง
นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส นายกสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์นำเข้าอิสระในช่วงปีที่ผ่านมา ต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ อย่างมากมายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในเรื่องของการปรับเปลี่ยนนโยบายของหน่วยงานราชการ อาทิ ปัญหาการชำระภาษีเพื่อนำรถยนต์ออกจากเขตพื้นที่ปลอดภาษี, การปรับเปลี่ยนวิธีการและอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต, การกำหนดราคาจำหน่าย ล้วนส่งผลทำให้การจำหน่ายรถยนต์ของผู้นำเข้าอิสระเกิดการชะลอตัวอย่างเนื่อง
"ในปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงสำคัญในการดำเนินธุรกิจของผู้นำเข้าอิสระ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนนโยบายของภาครัฐแบบกะทันหัน ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อการจำหน่ายรถยนต์เป็นอย่างมาก ทำให้หลายบริษัทต้องปิดกิจการเป็นจำนวนมาก เกิดการเลิกจ้างงาน ปัญหาล้มละลาย หรือปัญหาภาวะหนี้สูญ ขณะที่ผู้บริโภคต้องประสบปัญหาซื้อรถยนต์ในราคาแพงขึ้น และตลาดไม่เกิดการแข่งขันในด้านราคา ดังนั้น จึงทำให้การเติบโตของตลาดดังกล่าวหดตัวลงอย่างรุนแรง
ขณะที่ทางสมาคมฯ ได้ให้ความสำคัญและเข้มงวดกับสมาชิกในการดำเนินงานให้เป็นไปตามกฎระเบียบของสมาคมและหน่วยงานราชการมากขึ้น โดยมีการเจรจาและประสานงานกับหน่วยงานรัฐ เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจในการปฏิบัติงานของทั้ง 2 ฝ่ายได้ชัดเจนมากขึ้น ส่งผลทำให้ปัญหาต่างๆ ได้รับการแก้ไขได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องขั้นตอนการตรวจสอบผลิตภัณฑ์สำหรับการจัดเก็บภาษีรถยนต์ของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) หรือการปรับเปลี่ยนอัตราการจัดเก็บภาษีรถยนต์ใหม่ของกรมสรรพสามิต ที่ได้มีการชี้แจงให้ทราบล่วงหน้าเป็นเวลานาน และมีการประชุมปรึกษาหารือเป็นระยะๆ ทำให้เกิดความเข้าใจและหาแนวทางแก้ไขจนสำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี ซึ่งทางสมาคมฯ ต้องขอขอบคุณทั้ง 2 หน่วยงานนี้เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา ทางสมาคมฯ ได้มีการเสนอขอปรับลดอัตราภาษีอากรนำเข้า เนื่องจากในอดีตจวบจนปัจจุบัน อัตราการจัดเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าของประเทศไทยสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งไม่สอดคล้องกับภาวะตลาดรถยนต์โลกในปัจจุบัน ทางสมาคมฯ จึงได้นำเสนอแนวทางในการปรับลดอัตราภาษีอากรนำเข้า ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นับเป็นอีกหนึ่งผลงานของเป็นความร่วมมือระหว่างสมาคมฯ กับหน่วยงานภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม ยังมีบางเรื่องและบางประเด็นที่ติดขัดและมีปัญหาอย่างต่อเนื่อง อาทิ เรื่องกฎเกณฑ์การรับราคารถยนต์นำเข้าใหม่ ที่ปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ที่เคยปฏิบัติกันมานาน โดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการทราบล่วงหน้า อันส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง เนื่องจากราคาสูงขึ้น และไม่ได้รับส่งมอบรถยนต์ตามที่ลูกค้าต้องการ
ดังนั้น ในปี 2561 ทางสมาคมฯ หวังว่า ข้อกำหนดและข้อปฏิบัติต่างๆ ของบางหน่วยงานจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ปอร์ช ซึ่งทางผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์อิสระไม่สามารถเสียภาษีรถยนต์ปอร์ช ทุกรุ่นตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จึงอยากขอวิงวอนให้กรมศุลกรกรผ่อนผันการจัดเก็บภาษีรถยนต์นำเข้ายี่ห้อปอร์ช โดยใช้หลักเกณฑ์เดิม จนกว่าจะมีการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ที่ชัดเจนในอนาคต
พร้อมกันนี้ อยากให้หน่วยงานราชการต่างๆ ที่มีความประสงค์จะปรับเปลี่ยนนโยบายหรือแนวทางปฏิบัติที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจรถยนต์นำเข้าอิสระได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้า เพื่อให้สมาชิกสมาคมฯ ได้มีโอกาสปรับตัวหรือปรับเปลี่ยนกระบวนการดำเนินงานสำหรับรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที
ด้านตลาดรถนำเข้าอิสระโดยรวมในปีนี้ คาดว่าอัตราการเติบโตจะเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการลงทุนของภาครัฐและเมกกะโปรเจ็คต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ หากภาครัฐมีการลงทุนในเมกะโปรเจ็คมากขึ้น ก็จะส่งผลที่ดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังการซื้อมากขึ้น อีกทั้งสถานการณ์ต่างๆ น่าจะคลี่คลายและเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลทำให้ภาพรวมของธุรกิจรถยนต์นำเข้าดีขึ้นด้วยเช่นกัน