กรุงเทพฯ--10 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 10 มกราคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,307.60-1,314.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,050 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,100 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,100 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 80 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,180 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.45 น. ของวันที่ 10/01/61)
แนวโน้มวันที่ 11 มกราคม 2561
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐแตะระดับสูงสุดรอบ 10 เดือน ที่ 2.553% เพิ่มขึ้นจากระดับปิดตลาดสหรัฐที่ 2.546% ในวันอังคาร โดยก่อนหน้านี้ผลตอบแทนปรับขึ้นสูงถึง 2.555% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. หนุนดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น จนสร้างแรงขายเข้าสู่ตลาดทองคำ ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นและอัตราว่างงานที่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี ได้สนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) พยายามสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ โดยออกมาแสดงความเห็นในทิศทางที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ นายนีล คาชคารี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)สาขามินนีแอโพลิส กล่าวสนับสนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ เพื่อให้ค่าแรงและเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว จากปัจจุบันเงินเฟ้อยังและการขยายตัวของค่าแรงยังอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นนายคาชคารี ต้องการเห็นเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นก่อนที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยใดๆต่อไป มุมมองดังกล่าวพยุงราคาทองคำไว้ ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนธ.ค. ในวันพฤหัสบดี ซึ่งจะสะท้อนทิศทางเงินเฟ้อได้ส่วนหนึ่ง ขณะที่ข้อมูลจากอุตสาหกรรมรถยนต์ของเม็กซิโกชี้ว่า ได้ส่งออกรถยนต์ 2.33 ล้านคันไปยังสหรัฐในปี 2560 ซึ่งเพิ่มขึ้น 9.4% จากปีก่อนหน้า ทำให้นักลงทุนกังวลว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจไม่พอใจกับตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากก่อนหน้านี้รัฐบาลทรัมป์ขู่ที่จะเรียกเก็บ "ภาษีชายแดนในอัตราสูง" กับรถยนต์ที่ผลิตนอกประเทศสหรัฐ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะแสดงให้เห็นท่าทีเกี่ยวกับการกีดกันการค้าของสหรัฐที่ชัดเจนขึ้น จนอาจส่งผลลบต่อการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงและกระตุ้นแรงซื้อทองคำเพิ่มเติม เบื้องต้นประเมินว่าราคาทองคำอยู่ในช่วงของการพักฐาน หากราคายืนเหนือบริเวณ 1,305-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำยังมีโอกาสดีดขึ้นอีกครั้ง แนะนำเน้นกลยุทธ์การทำกำไรจากการแกว่งตัว
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้าง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,305-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,319 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน และแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,302 (19,750บาท) 1,293 (19,650บาท) 1,286 (19,500บาท)
แนวต้าน 1,319 (20,050บาท) 1,328 (20,200บาท) 1,337 (20,350บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,302 (19,900บาท) 1,293 (19,770บาท) 1,286 (19,660บาท)
แนวต้าน 1,319 (20,170บาท) 1,328 (20,310บาท) 1,337 (20,440บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999