กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 12 มกราคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,321.10-1,330.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,050 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,200 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,100 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.34 น. ของวันที่ 12/01/61)
แนวโน้มวันที่ 15 มกราคม 2561
เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุในรายงานการประชุมว่า ECB อาจยุติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยอาจลดหรือยุติการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ส่งผลบวกต่อสกุลเงินยูโรและหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่ ECB ได้มีการหารือกันอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมหลังจากโครงการ QE สิ้นสุดลง ขณะเดียวกันทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม จากดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าโดยได้รับแรงกดดันจากข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปีครึ่งในเดือนธ.ค. ซึ่งเงินเฟ้อในภาคการผลิตที่อ่อนแออาจจะทำให้มีความวิตกมากขึ้นต่อความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีความระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้ว่าเฟดคาดว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งสำหรับปีนี้ แต่เจ้าหน้าที่เฟดบางราย แสดงถึงความวิตกกังวลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าเป้าหมายและอาจจะยังอยู่ในระดับต่ำต่อไป อย่างไรก็ตามปริมาณการซื้อในตลาดทองคำอาจเบาบาง เนื่องจากตลาดสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์นี้ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ขณะที่การขยับขึ้นของทองคำอาจชะลอตัว หากนักลงทุนทั่วโลกเพิ่มการเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นวอลล์ สตรีททะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น ผลักดันให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัว และความหวังจากรายงานผลประกอบการของบริษัทสหรัฐที่สดใส ซึ่งนักลงทุนกำลังจับตาเรื่องการเผยรายงานผลประกอบการจากบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งกำลังเริ่มต้นทยอยประกาศออกมา นำโดยบริษัทธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นและทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาทองคำ บริเวณ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นแนวต้านหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซนดังกล่าวได้มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบน แต่หากไม่สามารถยืนได้ราคาก็มีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,315-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,315 หรือ 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรก ซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,315 (19,850บาท) 1,307 (19,750บาท) 1,293 (19,550บาท)
แนวต้าน 1,337 (20,250บาท) 1,346 (20,400บาท) 1,358 (20,550บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,315 (20,000บาท) 1,307 (19,880บาท) 1,293 (19,670บาท)
แนวต้าน 1,337 (20,340บาท) 1,346 (20,480บาท) 1,358 (20,660บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999