กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--ชม พีอาร์
นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารในกลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ประจำประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2560 (ข้อมูลสิ้นสุดก่อนปิดปี) ภาพรวมของ เจนเนอราลี่ ประเทศไทยทั้งสองบริษัท เติบโตจากปีก่อนอย่างน่าพอใจ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ โดย APE เติบโตร้อยละ 70 จากประกันชีวิต และ GWP เติบโต ร้อยละ 26 จากฝั่งประกันวินาศภัย คาดเดินหน้าโตต่อเนื่องในปี 2561
"ปัจจัยของความสำเร็จของเจนเนอราลี่ในปี 2560 นี้มาจากวิสัยทัศน์และความสามารถ ในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วตามกลยุทธ์องค์กร หลายแผนที่เราวางไว้สำเร็จได้ตามเป้า หลายช่องทางจัดจำหน่ายเติบโตแบบก้าวกระโดด ในช่องทางที่เราเป็นผู้นำอย่างประกันกลุ่มก็ยังคงทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ผลรวม APE จากบริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เติบโตขึ้น 70% แม้ในขณะที่อุตสาหกรรมยังคงชะลอตัว อีกทั้งเราได้วางแผนกลยุทธ์ด้าน "ดิจิตอล เอ็นเกจเม้นท์" มาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว เราได้ริเริ่มและเป็นผู้นำในการสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าผ่านดิจิทัลแพล็ตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั้งปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งในปี 2561 เราได้ต่อยอดกลยุทธ์บุกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ" นายบัณฑิต กล่าว
ทางด้านกลุ่มธุรกิจประกันวินาศภัย นายกรกฤต คำเรืองฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์)จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานว่า "ภาพรวมของฝั่งวินาศภัย มีอัตราการเติบโตที่ดีถึง 20% ในขณะที่อุตสาหกรรมโตเพียง 4.5% โดย GWP ของฝั่งประกันภัยอยู่ที่ 837.5 ล้านบาท เป็นผลมาจากผลิตภัณฑ์ด้าน A&H ที่ได้กระแสตอบรับที่ดี และการเติบโตจากช่องทาง Bancassurance และ Direct Business
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นกระแสการดูแลสุขภาพที่มาแรง, นโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมมาตรการด้านภาษีให้กับประกันสุขภาพ, การทำการตลาดแบบ customer-centric ร่วมกับการวิเคราะห์จับทิศทางของ ตลาดได้อย่างแม่นยำ ทำให้เราวางแผนและปล่อยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคนี้ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เรายังคงความแข็งแกร่งและเติบโตในตลาดประกันภัยอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเจนเนอราลี่เป็นประกันที่มากกว่าประกันอย่างแท้จริง" นายกรกฤต กล่าวเสริม
สำหรับในปี 2561 กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ฯ พร้อมเดินหน้าก้าวข้ามขีดจำกัดของธุรกิจประกันชูกลยุทธ์การเป็นผู้นำในด้าน "Digital Lifestyle Service" โดยนำความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆจากบริษัทแม่ที่ประเทศอิตาลี มาพัฒนาใช้กับธุรกิจประกันในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และการทำตลาดแบบเน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าเป็นสำคัญ โดยตั้งเป้าปี 61 ฝั่งประกันชีวิตโตเพิ่ม 76% และประกันวินาศภัยโตเพิ่ม 24%
"เราจะไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ไว้ที่ประโยชน์ของการลงทุนหรือความคุ้มค่าของการคุ้มครองเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่เรา เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ยังคงยืนยันก็คือ การเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคนและสิ่งที่คุณรัก พร้อมเคียงข้างดูแลความรักของคุณตลอดไป ตอกย้ำแบรนด์อันแข็งแกร่งของเรา เจนเนอราลี่...ประกันความรักคุณ" นายบัณฑิต กล่าวสรุป