การใช้สิทธิ FTA ของไทยกับประเทศคู่เจรจาเพิ่มขึ้น

ข่าวทั่วไป Monday October 29, 2007 14:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า มูลค่าการใช้สิทธิภายใต้ FTA มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจาก กรมฯ มีการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการใช้สิทธิอย่างต่อเนื่อง และเป็นผลมาจากความร่วมมือในการทำความตกลงเขตการค้าเสรี หรือ FTA ที่มีการกำหนดรูปแบบการลดภาษีสินค้าภายใต้ความตกลงฯ ให้ทยอยลดภาษีจนเป็น 0 ภายในปีที่กำหนด อาทิ ภายใต้ความตกลง FTA ไทย-ออสเตรเลีย สินค้าหลายรายการ เช่น ปลาทูนาปรุงแต่ง สินค้าพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก (แผ่น ฟิลม์ ฟอยส์ กล่อง หีบ ถุง) มีอัตราภาษีปกติ 5% และทยอยลดภาษีลงเหลือ 0 ในปี 2550 หรือ ภายใต้ความตกลง FTA ไทย-อินเดีย สินค้า 82 รายการที่ไทยและอินเดียนำมาเร่งลดภาษี ได้ปรับลดอัตราภาษีลงจนเหลือ 0 แล้วตั้งแต่ วันที่ 1 กันยายน 2549 นอกจากนี้ ภายใต้ความตกลงอาเซียน-จีน มีรูปแบบการลดภาษีสำหรับสินค้าปกติ ( Normal Track) โดยในปี 2549 สินค้าที่มีอัตราภาษีปกติสูงกว่าหรือเท่ากับ 20% จะลดเหลือ 12% ในวันที่ 1 มกราคม 2550 หรือ สินค้าที่มีอัตราภาษีปกติสูงกว่าหรือเท่ากับ 15% ในปี 2549 จะลดเหลือ 8% ในวันที่ 1 มกราคม 2550
ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับประเทศต่าง ๆ ที่มีผลใช้บังคับแล้ว ได้แก่
ไทย-ออสเตรเลีย (ทุกสินค้า) มีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2548 (เป็น 0 ทันที 5,083 รายการ)
อาเซียน-จีน
สินค้าพิกัด 01-08 มีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2547 (เป็น 0 ตั้งแต่ 1 ม.ค.49)
สินค้าทุกพิกัด มีผลบังคับใช้ 20 กรกฎาคม 2548 (ลดปีละ 1-4% เป็น 0 ภายใน ปี 53)
ไทย-อินเดีย (สินค้า 82 รายการ) มีผลบังคับใช้ 1 กันยายน 2547 (เป็น 0 ตั้งแต่ ก.ย. 49 )
ไทย-นิวซีแลนด์ (ทุกสินค้า) มีผลบังคับใช้ 1 กรกฏาคม 2548 (เป็น 0 ทันที 5,878 รายการ)
กรมการค้าต่างประเทศได้สนับสนุนการส่งออกโดยการตรวจและรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า เพื่อการส่งออกไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในประเทศภายใต้ความตกลงดังกล่าว (ยกเว้น ความตกลง ไทย-นิวซีแลนด์ ที่ไม่ต้องออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า) ประมาณปีละ 100,000 ฉบับ โดยในช่วงปี 2549 (ม.ค. —ธ.ค.) การใช้สิทธิมีมูลค่า 4,524.19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นร้อยละ 27.34 ของมูลค่าการส่งออกรวม และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 50.7
สำหรับการใช้.......
สำหรับการใช้สิทธิฯ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2550 (ม.ค. — ส.ค.) มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ ดังนี้
- ไทย-ออสเตรเลีย มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 2,623.92 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2549 ที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 1,643.83 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีการใช้สิทธิฯ เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 59.62
สินค้าสำคัญที่มีการใช้สิทธิสูง ได้แก่ รถบรรทุกชนิดแวนและปิกอัพ รถยนต์ (รถพยาบาล) เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ปลาที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย และอุปกรณ์ ส่วนประกอบของ ยานยนต์ เป็นต้น
- อาเซียน-จีน มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 1,213.12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปี 2549 ที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 902.18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีการใช้สิทธิฯ เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 34.47
สินค้าสำคัญที่มีการใช้สิทธิสูง ได้แก่ มันสำปะหลังชนิดเป็นชิ้น ยางผสมชนิดอันวัลแคไนซ์ โพลิคาร์บอเนต น้ำมันก๊าด (เคโรซีน) และ ผลไม้สด เช่น ทุเรียนสด ลำไย เงาะ เป็นต้น
- ไทย-อินเดีย มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 284.90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2549 ที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ183.19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีการใช้สิทธิฯ เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 55.52
สินค้าสำคัญที่มีการใช้สิทธิสูง ได้แก่โพลิคาร์บอเนต เครื่องรับโทรทัศน์สี อลูมิเนียมเจือ เครื่องปรับอากาศแบบติดหน้าต่างหรือติดผนัง และหลอดภาพแคโทดเรย์ของเครื่องรับโทรทัศน์สี เป็นต้น
โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2550 กรมการค้าต่างประเทศ ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Form FTA) เพื่อใช้สิทธิลดภาษีนำเข้าในประเทศคู่ตกลงฯ ประมาณ 88,163 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวม 4,121.94 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 2,729.20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 51.03

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ