กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ. ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ตนพร้อมคณะผู้บริหาร วธ. ได้เข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลการบริหารงานกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อนำเสนอภารกิจสำคัญของกระทรวงและรับมอบนโยบายการดำเนินงานเพื่อนำไปขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมในปี 2561 ทั้งนี้รองนายกรัฐมนตรี ชื่นชมการดำเนินงานของ วธ.ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ที่สามารถเข้าถึงและทำให้ประชาชนรับทราบและยอมรับงานของกระทรวง
อย่างไรก็ตาม แนวทางและนโยบายที่รองนายกรัฐมนตรี มอบหมอบให้ วธ. เพื่อขับเคลื่อนงานมีทั้งหมด 9 เรื่อง ดังนี้
1. ให้ วธ.สานต่องานเดิมที่ดำเนินการได้ดีอยู่แล้วให้ต่อเนื่องต่อไป
2.การจัดเตรียมงานเกี่ยวกับ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
3.บูรณาการการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย (มท.) สำนักพระราชวัง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ราชบัณฑิตยสภา สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ รวมทั้งร่วมมือกับสถานทูตและหน่วยงานต่างประเทศที่ตั้งอยู่ในไทยเพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมให้แพร่หลายในต่างประเทศกว้างขวางมากขึ้น
4.ให้วิเคราะห์และทบทวนเพื่อแก้ไขปรับปรุงหรือพัฒนากฎหมายในความรับผิดชอบของ วธ. โดยเร่งดำเนินการให้ทันในรัฐบาลชุดปัจจุบัน
นายวีระ กล่าวอีกว่า 5.ให้พิจารณาถึงความจำเป็นในการปรับปรุงโครงสร้างและอัตรากำลังหน่วยงานในสังกัด อาทิ เตรียมการรองรับการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น งานในความรับผิดชอบของกรมศิลปากร รวมถึงการรับโอนภารกิจมาจากหน่วยงานอื่น เช่น งานด้านภาพยนตร์จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อาจจะตั้งหน่วยงานระดับกองขึ้นมารองรับภารกิจที่รับโอน
6.พิจารณางานขึ้นทะเบียนและบูรณะโบราณสถานว่ายังมีงานที่ต้องดำเนินการมากน้อยเพียงใด มีปัญหาด้านงบประมาณและอื่นๆหรือไม่ รวมทั้งให้ศึกษาแนวทางพัฒนางานด้านหอสมุดแห่งชาติ งานด้านพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รวมถึงงานด้านอื่นๆ ในความรับผิดชอบของ วธ.ที่ควรจะพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบองค์กรเพื่อให้การบริหารมีความคล่องตัวมากขึ้น อาทิ หน่วยงานบริหารจัดการรูปแบบพิเศษ (เอสดียู) หรือองค์การมหาชน โดยหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ด้วย
7.ศึกษาแนวทางในการจัดทำหลักสูตรและพัฒนาการเรียนการสอนวิชาด้านศิลปวัฒนธรรมและส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในโรงเรียนสังกัด ศธ. กรุงเทพมหานคร และ มท. เรื่องการส่งเสริมการเล่นดนตรีไทยหรือสากลได้อย่างน้อย 1 ชิ้น หรือสามารถแสดงนาฏศิลป์ได้ อีกทั้งส่งเสริมให้มีหลักสูตรด้านศิลปวัฒนธรรมอยู่ในการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัย อาทิ วัฒนธรรมการดูแลผู้สูงอายุ โดยให้บูรณาการความร่วมมือกับทั้ง 3 กระทรวง
8.ให้ศึกษาข้อมูลและเตรียมการรองรับการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศในส่วนที่เกี่ยวข้อง
และ 9. ให้รณรงค์ส่งเสริมด้านภาษาถิ่นในประเทศไทยตามนโยบายรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด วธ.นำนโยบายที่ได้รับจากรองนายกรัฐมนตรีจัดทำแผนงาน โครงการและจัดสรรงบประมาณรองรับ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรมและเห็นผลสำเร็จมากขึ้น