กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 15 มกราคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,335.60-1,344.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,300 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,200 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,370 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,250 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 15/01/61)
แนวโน้มวันที่ 16 มกราคม 2561
ดอลลาร์ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดรอบ 3 ปี เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจลดการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาด หนุนให้ยูโรแข็งค่าขึ้น ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปอันแข็งแกร่งกระตุ้นเงินทุนไหลเข้าสู่ยุโรป อีกทั้งพรรคอนุรักษ์ของนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีและพรรคสังคมประชาธิปไตยประสบความสำเร็จในการตกลงเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐไม่ได้รับแรงหนุนแม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) พื้นฐานของสหรัฐปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 11 เดือนในเดือนธ.ค. ซึ่งหนุนคาดการณ์ที่ว่าเงินเฟ้อาจจะปรับตัวเร็วขึ้นในปีนี้ อย่างไรก็ดีนายนีล คาชคารี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)สาขามินนิแอโพลิสกล่าวว่า การปรับตัวขึ้นสูงของเงินเฟ้อในเดือนธ.ค. ไม่เพียงพอที่จะทำให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดมั่นใจว่าจะจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่นายอีริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน กล่าวว่า การปรับตัวลงของการว่างงานสหรัฐเมื่อไม่นานมานี้ สร้างความเสี่ยงต่อความยั่งยืนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมากกว่าเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตามความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ตามราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน กระตุ้นความต้อการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน หนุนตลาดหุ้นเอเชียแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นสัปดาห์ ขานรับตลาดหุ้นวอลล์สตรีททะยานขึ้นต่อเนื่องในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนลดความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำลง อย่างไรก็ตามรัสเซียออกมาให้ความเห็นว่าตลาดน้ำมันดิบยังคงไม่เข้าสมดุลในเร็วนี้ ขณะที่บริษัทพลังงานของรัสเซียเสนอให้มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นหากราคาน้ำมันดิบสูงกว่าระดับ 70 เหรียญต่อบาร์เรลติดต่อกันมากกว่า 6 เดือน ซึ่งอาจส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน ตลาดหุ้น และอาจกระทบต่อราคาทองคำ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,331 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่ถ้าไม่สามารถผ่านได้ยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร ซึ่งการอ่อนตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าซื้อ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังคงอยู่ในลักษณะเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น โดยกรอบของราคาในช่วงนี้จะอยู่ระหว่างแนวรับที่ 1,331 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวต้านที่ 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการปรับตัวลงเข้าใกล้กรอบล่างของราคา โดยให้รอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,331 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับอาจถอยจุดเข้าซื้อไปที่บริเวณแนวรับถัดไปที่ 1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนะนำให้ทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือหากผ่านไปได้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้อาจรอทำกำไรบริเวณ 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,331 (20,100บาท) 1,322 (19,950บาท) 1,315 (19,850บาท)
แนวต้าน 1,346 (20,350บาท) 1,358 (20,550บาท) 1,365 (20,650บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,331 (20,200บาท) 1,322 (20,070บาท) 1,315 (19,960บาท)
แนวต้าน 1,346 (20,440บาท) 1,358 (20,620บาท) 1,365 (20,720บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999