กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--ฟิลลิป
แนวโน้มตลาดวันนี้: ภาพยังเป็นบวกแต่ให้ระวังแรงทำกำไร
เม็ดเงินต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อหุ้นทั่วเอเชียเมื่อวานนี้ได้ทำให้ SETI ปรับขึ้น 1.6% ภาย ใต้มูลค่าซื้อขายที่คึกคักถึง 33,921 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,835.74 ล้านบาท สำหรับวันนี้ปัจจัยราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องยังจะช่วยสนับสนุน SETI ได้ต่อหากแต่เราให้ระวังแรงทำกำไรตามตลาดในภูมิภาคที่เช้านี้หลายตลาดเปิด ใน แดบลบและภาพเทคนิคเป็น Overbought ถึงแม้แนวโน้มระยะสั้นยังเป็นขาขึ้น ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำเพียง "Selective Trading" โดยให้เน้นหุ้น laggard รวมถึงกลุ่มเดินเรือ และหลักทรัพย์จากประเด็น BDI และวอลุ่มตลาดปรับสูงขึ้นเป็นหลัก
แนวต้าน 896-900 แนวรับ 884-880
ปัจจัยเด่นวันนี้
+ ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 1.78 ดอลลาร์ (+2.2 %) มาปิดที่ 83.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนัก งานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐว่าสต็อกน้ำมันดิบดิ่งลงอย่างผิด ความคาดหมายในสัปดาห์ที่แล้ว และรายงานดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลกับอุป ทานช่วงฤดูหนาว
+ ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้น 295 จุดแตะระดับ 10513 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของดัชนีในปีนี้ รวมทั้งเป็นระดับสูงสุดตลอดกาล ขณะที่ระดับ ต่ำสุดของดัชนีในปีนี้อยู่ที่ 4219 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 843 ทั้งนี้ ดัชนีค่าระวางเรือทะยานขึ้นแล้ว 132.39 % ในปีนี้ เมื่อเทียบกับการปรับตัวขึ้น 82.68% ในปีที่ผ่านมา
+ นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิสูงถึง 2,838.82 ล้านบาทเมื่อวานนี้
0 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน กันยายน 2550 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ระดับ 75.8 จากระดับ 75.7 ในเดือนก่อนหน้าโดยสูงขึ้นในรอบ 11 เดือน ทั้งนี้ เป็นผลมาจาก การกำหนดวันเลือกตั้งในช่วงปลายปี การส่งออกยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และการขยายตัวของตลาดหุ้น
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงในวันพฤหัสบดี 63.57 จุด หรือ 0.45% และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 39.41 จุดหรือ 1.40% โดยความเห็นของโบรกเกอร์ในเชิงลบเกี่ยวกับบริษัท Baidu.com ซึ่งเป็นเว็บเสิร์ทชั้นนำของจีน สร้างความวิตกให้กับนักลงทุนหลังตลาด ปรับตัวขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงเช้า